‘หมู่อาร์ม’ จี้ทวงถามความคืบหน้าให้คุ้มครองพยาน หวั่นไม่ปลอดภัยหลังถูกคุกคาม ย้ำไม่ลาออกราชการ
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือ “หมู่อาร์ม” ทหารสังกัดศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์ กรมสรรพาวุธทหารบก พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน นำรายชื่อประชาชนที่สนับสนุนกว่า 6,300 รายในนามผู้สร้างแคมเปญที่ใช้ชื่อว่า ประชาชนเพื่อการปฏิรูปกองทัพ เรียกร้องให้คุ้มครองหมู่อาร์ม เพื่อทวงถามความคืบหน้า เนื่องจากมายื่นคุ้มครองพยานจาก ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้รับการติดต่อกลับแต่อย่างใดเป็นเวลา 2 เดือน จึงเดินทางมาทวงถาม ป.ป.ช.ในวันนี้ ผ่านนายสุทธิ บุญมี ผอ.สำนักกิจการ สืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ช.
ส.อ.ณรงค์ชัยกล่าวว่า ตนรู้สึกผิดหวังมาก เพราะตนได้รับความเดือดร้อนจริงๆ ถึงมาขอความช่วยเหลือจาก ป.ป.ช. เหมือนคนป่วยที่ต้องได้รับความดูแลอย่างเร่งด่วน แต่ ป.ป.ช.เงียบหายไป แต่หากไม่มีความคืบหน้าก็จะยื่นร้องเรียน ป.ป.ช.ที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ม.157 ทั้งนี้ ตนมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ว่าเหมือนมีคนขับรถตาม แต่ไม่ได้พบเหตุซึ่งหน้า
“ผมไม่ได้กังวลที่จะต้องขึ้นศาลทหารหากถูกดำเนินคดี แต่กลัวว่าจะไม่ได้รับการประกันตัวมากกว่า ได้มายื่นคุ้มครองพยานกับ ป.ป.ช.ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงอยากมาทวงถามความคืบหน้า ป.ป.ช.และขอสงวนสิทธิกรณีที่จะโดนปลดออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมเป็นต้นไป เพราะได้มายื่นขอคุ้มครองพยานกับ ป.ป.ช.แล้ว จึงขอวิงวอนให้ได้รับความยุติธรรม และขอให้ ป.ป.ช.ใช้อำนาจตาม ม.133 พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติที่จะย้ายไปตำรวจหรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นก็ได้ ซึ่งผมยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง และหากเรื่องนี้ผ่านไปได้ด้วยดีก็จะขอต่อสู้ให้กับทหารชั้นผู้น้อยต่อไป“ ส.อ.ณรงค์ชัยกล่าว
ขณะที่นางสาวณัฏฐากล่าวว่า หมู่อาร์มได้มายื่นคำเรื่องร้องเรียนที่ ป.ป.ช.ตั้งแต่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา และยื่นคำร้องขอย้ายหน่วยงานด้วย เพราะหลังเปิดโปงก็ย่อมไม่มีความปลอดภัยในการกลับไปทำงานที่เดิม และขณะนี้หมู่อาร์มมีความเสี่ยงที่จะถูกปลด และถูกดำเนินการในศาลทหารเพราะหนีราชการเกิน 15 วัน ทั้งนี้ ขอเรียกร้องไปยังผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ขอให้ชะลอคำสั่งปลดหมู่อาร์ม เพราะหมู่อาร์มไม่ได้มีเจตนาที่จะหนีราชการ และให้ความเป็นธรรมตามกระบวนการ โดยให้ ป.ป.ช.ทำงานให้ทันเวลา เพื่อ ป.ป.ช.จะได้ไม่โดนข้อหาในการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ มองว่าหาก ป.ป.ช.ไม่ดำเนินการคุ้มครองพยานก็จะไม่มีทหารชั้นผู้น้อยกล้าออกมาเปิดโปงการทุจริต และนี่ถือเป็นด่านแรกของการปฏิรูปกองทัพด้วย
นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. กล่าวว่า ขณะนี้ เรื่องการขอคุ้มครองพยานของหมู่อาร์มเข้าสู่วาระการพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.แล้ว แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะวินิจฉัยวันนี้หรือไม่ ทั้งนี้ เรื่องการคุ้มครองพยานจะต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ที่ร้องขอ จึงต้องเร่งรัดดำเนินการ ส่วนหลังจากกองทัพบกยื่นเรื่องการทุจริตเข้ามาว่ามีนายพล 3 คนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น ขณะนี้ทาง ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบเบื้องต้น และอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารของทั้งสองฝ่าย เพราะมีหลักฐานจำนวนมาก
ส่วนนายสุทธิ บุญมี ผอ.สำนักสืบสวนและกิจกรรมพิเศษสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวยืนยันว่า การพิจารณาจะไม่ช้า โดยจะพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องว่ามีการถูกคุกคามหรือถูกกลั่นแกล้งหรือไม่ หากปรากฏเป็นข้อเท็จจริงก็จะยื่นดำเนินการคุ้มครองพยาน ซึ่งคำร้องดังกล่าวอยู่ในวาระการประชุมของ ป.ป.ช.แล้ว แต่เนื่องจากมีหลายวาระจึงต้องพิจารณาตามลำดับ และคาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาโดยเร็ว
