‘ซูเปอร์โพล’ ชี้ยุบสภาเป็นทางออกการเมืองที่ดีที่สุด พร้อมบอกคนไทยอยากได้คนซื่อสัตย์สุจริต

‘ซูเปอร์โพล’ ชี้ยุบสภาเป็นทางออกการเมืองที่ดีที่สุด พร้อมบอกคนไทยอยากได้คนซื่อสัตย์สุจริต

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง คนดีการเมือง ศึกษาตัวอย่างจากประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินการเก็บข้อมูลแบบผสมผสาน ทั้งการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ การลงพื้นที่และการเก็บข้อมูลในโลกโซเชียลทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ จำนวน 1,790 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 9-12 มิถุนายน ผลปรากฏว่า

เมื่อถามถึงลักษณะคนดีของรัฐมนตรีที่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีไว้ใกล้ตัว พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.5 ซื่อสัตย์ สุจริต ตามศาสตร์พระราชา ไม่ถอนทุนคืน ไม่มีประวัติด่างพร้อย รองลงมาคือ ร้อยละ 10.9 ทำเพื่อประชาชนในเฉพาะฐานเสียงของตนเอง ร้อยละ 10.4 เป็นคนเก่ง การศึกษาดี มีผลงานสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ และร้อยละ 3.2 ระบุ อื่นๆ เช่น ร่ำรวย มีบารมี เป็นต้น

ข้อต่อมาถามถึงกลุ่มคนที่จะปลีกตัวออกห่างจาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นกลุ่มแรกเมื่อเกิดปัญหาวิกฤตขึ้นในบ้านเมือง ผลปรากฏว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.0 ระบุเป็นกลุ่ม ส.ส.ที่ปากบอกว่า รักบิ๊กตู่ หนุนบิ๊กตู่ ตอนนี้ที่บิ๊กตู่กำลังมีอานาจ รองลงมาคือ ร้อยละ 21.6 เป็น กลุ่ม ส.ส.ที่กำลังแย่งชามข้าว แย่งตำแหน่งรัฐมนตรีกันตอนนี้ และร้อยละ 17.4 เป็นกลุ่มข้าราชการและประชาชนทั่วไป

ส่วนที่น่าเป็นห่วงคือ ร้อยละ 78.7 เชื่อว่าการแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีนั้นเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ที่ทำรัฐบาลแตกแยก บ้านเมืองวุ่นวาย บนความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน ส่วนอีกร้อยละ 21.3 ระบุว่าไม่เป็น

Advertisement

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.5 ชี้ว่าการยุบสภา คืนอำนาจประชาชน ให้มีการเลือกตั้งใหม่จะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ส่วนร้อยละ 17.8 เสนอให้ปรับคณะรัฐมนตรี และร้อยละ 11.7 เสนอว่าทำงานต่อไป

ผศ.ดร.นพดลกล่าวต่อว่า โพลชิ้นนี้ชี้ชัดว่าลักษณะคนดีของรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการที่มากที่สุดคือ ซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีประวัติด่างพร้อย แต่ลักษณะของรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการน้อยที่สุดคือ รัฐมนตรีที่มีบารมี จึงเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าในคณะรัฐมนตรีไม่ควรมีคนมากบารมีมากกว่านายกรัฐมนตรี ตามคำโบราณที่ว่า เสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้

“แต่ที่น่าพิจารณาอย่างยิ่งคือ การแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีกันของ ส.ส. ในพรรคการเมืองตอนนี้กำลังกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่ทำให้รัฐบาลแกว่งตัวสั่นคลอน บ้านเมืองวุ่นวายบนความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน และผลจากการประเมินขั้นสุทธิ (Net Assessment) พบว่า การยุบสภาช่วงนี้จะเหมาะมากต่อจังหวะลงจากหลังเสือ (Exit Strategy) ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาหรืออาจทำให้ปัญหาวุ่นวายในบ้านเมืองช่วงปลายปีนี้ไม่เกิด แต่ถ้าจะยื้อกันต่อไปก็คอยรอดูกันต่อว่าอะไรจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้ โดยรัฐบาลต้องไม่ทำอะไรฝืนกระแสอารมณ์ของสาธารณชนเพิ่มเติมขึ้นมาอีก นับจากเวลานี้เป็นต้นไป รัฐบาลต้องนิ่งๆ ก้มหน้าก้มตาทำงานแก้ปัญหาเดือดร้อนความทุกข์ยากของประชาชนต่อไป ขอให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลอย่าเป็นต้นตอของความวุ่นวายเสียเอง” ผศ.ดร.นพดลกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image