อ.รัฐศาสตร์ มช. ชี้ พรก. ฉุกเฉินเปิดช่องจนท.ใช้ดุลยพินิจต่างมาตรฐาน แนะถ้าจะคงไว้ต้องมีกรอบให้ชัด
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน สืบเนื่องกรณีการยกเลิกเคอร์ฟิวในคืนนี้เป็นคืนแรกแต่ยังคง พรก.ฉุกเฉิน ผศ.ดร.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัชร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ม.เชียงใหม่ กล่าวว่า ภาคส่วนธุรกิจโดยเฉพาะกรณีสถานบันเทิงที่ยังไม่สามารถเปิดได้ มองว่าจริงๆแล้วบางเรื่องคุมโรคได้ แต่ในหลายกรณีก็ไม่สามารถอัดฉีดธุรกิจได้อย่างเต็มที่
อย่างที่เราทราบกันว่า หลายฝ่ายตั้งคำถามเรื่องการใช้พรก.ฉุกเฉิน ว่าเป็นข้ออ้างในการสกัดความไม่พอใจทางการเมืองในปัจจุบันซึ่งก็เป็นคำถามใหญ่ของรัฐบาลที่จะต้องตอบ อย่างไรก็ตามในหลายกรณี พรก.ฉุกเฉินมีปัญหาตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีข้อสังเกตหลักคือรัฐบาลไม่ได้มีกรอบการใช้ดุลยพินิจในการบังคับใช้กฎหมายกับเจ้าหน้าที่อย่างชัดเจน ในหลายครั้งการออกคำสั่ง การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนไม่ได้ใช้เกณฑ์มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ไม่ใช่การตัดสินใจทางการเมืองโดยตรงของรัฐบาล แต่เป็นกลไกของภาครัฐ หากยังคง พรก.ฉุกเฉินไว้
ส่วนตัวมีข้อเสนอแนะว่าอาจต้องมีกรอบการใช้ดุลยพินิจให้เจ้าหน้าที่อย่างรอบด้านและชัดเจนในมาตรฐานเดียวกัน
“สำหรับการแพร่ระบาดรอบที่ 2 เป็นความเสี่ยงที่ทุกประเทศเจอ ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดสนามบิน การติดต่อกับต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ถามว่าเป็นความเสี่ยงหรือไม่ ก็เสี่ยง อย่างไรก็ตาม การควบคุมคนเข้าออก หรือเส้นทางการบินระหว่างประเทศต้องมีมาตรการการรองรับในที่ตั้งทางด้านการเดินทางคือเรื่องสำคัญ แต่อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า พรก.ฉุกเฉิน มีการเปิดช่องว่างการใช้ดุลยพินิจ” ผศ.ดร.ฐิติวุฒิกล่าว
