ผบ.ตร.คนต่อไป
ต้องนึกถึงสำนวนเก่าแก่ที่ว่า เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ขึ้นมาจริงๆ ไม่ทันไรเข้าสู่เดือน 6 แล้ว ความที่ปีนี้เป็นปีแห่งโรคระบาดโควิดนั่นเอง เลยทำให้เราๆ ท่านๆ ต้องอยู่กับการเก็บตัวกักตัว ขนาดเทศกาลสงกรานต์ก็ต้องผ่านเลยไป ไม่มีการหยุดสนุกสนานสำราญใจ อะไรต่อมิอะไรเลยเหมือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
จากนี้ไปนับนิ้วอีกไม่กี่เดือน สำหรับแวดวงราชการ ก็ใกล้ถึงวันครบเกษียณอายุแล้ว
อย่างแวดวงตำรวจ อยู่ในช่วงคึกคักเข้มข้น เพราะตำแหน่ง ผบ.ตร.ถึงเวลาต้องเปลี่ยนตัว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา จะนั่งเก้าอี้ผู้นำตำรวจถึง 30 กันยายนนี้ พร้อมการสร้างสถิติเป็น ผบ.ตร.ครบวาระ แถมยาวนานถึง 5 ปีอีกด้วย
ใครจะมานั่งเก้าอี้นี้แทน ปกติจะต้องแต่งตั้งกันล่วงหน้าประมาณสิงหาคมนี้ ต้องได้ ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งจะเข้าทำหน้าที่ตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป
ไม่เกิน 2 เดือนนี้ต้องตัดสินกันแล้ว
วงการสีกากีวันนี้ จึงเช็กข่าวเช็กกระแสกันขะมักเขม้น เพื่อไม่แทงหวยผิด
โดย 3 รอง ผบ.ตร.ที่โดดเด่นมีโอกาสสูง ได้แก่
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ซึ่งดูงานด้านปราบปราม ทายาทอดีตอธิบดีกรมตำรวจ เป็นตำรวจสายบู๊ดุดัน ได้รับการยกย่องจากผู้ใต้บังคับบัญชาว่าถึงลูกถึงคน ลุยทุกสถานการณ์ ไม่ยึดติดห้องแอร์ และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. เพื่อนร่วมรุ่นของ พล.ต.อ.จักรทิพย์อีกคน ดูงานด้านความมั่นคง รวมทั้งคุมคดีสำคัญๆ มากมายหลายคดี ด้วยมีความสามารถทั้งด้านงานสืบสวนและสอบสวน เป็นนายตำรวจสุขุมลุ่มลึก มากวิสัยทัศน์หนักแน่นในหลักการ
พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.ฝ่ายบริหาร มีสไตล์ที่โดดเด่นคือ คอมโพรไมซ์ ประสานได้กับทุกฝ่าย เป็นนักบริหารตัวจริง ได้รับความไว้วางใจในทุกระดับ
3 ชื่อนี้แหละ ที่มาแรงและยังดูสูสีอย่างมาก
อยู่ที่ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ กับนายกรัฐมนตรีที่คุมงานตำรวจโดยตรง จะหารือลงตัวที่ชื่อไหน
ระหว่างมือปราบนักบู๊ หรือมือสืบสวนสอบสวนสุขุมลุ่มลึก หรือมือบริหารนุ่มนวล
แถมเส้นดี
แต่ถ้าว่าตามสำนวนของนักวิเคราะห์ก็ต้องทิ้งติ่งไว้ว่า อย่าได้มองข้าม พล.ต.อ.
ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะม้ามืดที่มีโอกาสเบียดแทรกอยู่เช่นกัน
ใครกันแน่ที่จะเป็นผู้นำตำรวจคนใหม่ ประมาณเดือนสิงหาคมนี้ คงมีการตีกลองเรียกประชุมแต่งตั้งแน่นอน
ส่วน ผบ.ตร.ปัจจุบัน ที่กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ ทำลายอาถรรพ์เก้าอี้ ผบ.ตร. เพราะอยู่ได้ครบวาระ และยาวนานอย่างมาก
ในช่วงโควิดที่ผ่านมา เดินสายให้กำลังใจตำรวจทั่วประเทศ นำข้าวของบริจาค
ตำรวจทั่วทุกภาค ตั้งโครงการดูแลประชาชนทุกถิ่นที่
เมื่อรวมกับผลงานที่ผ่านๆ มา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น ผบ.ตร.ขวัญใจชาวบ้าน เอาแค่เหตุการณ์ช่วยเด็กหมูป่า และเหตุการณ์จ่าคลั่งที่โคราช ทำเอาเนื้อหอมอย่างมาก
ต้องมองต่อไปได้เลยว่า มีอนาคตสดใสทางการเมืองแน่ๆ
โดยพร้อมๆ กับการเกษียณอายุในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ก็จะพ้นจากการเป็น ส.ว.
ที่ได้รับแต่งตั้งเข้ามาโดยตำแหน่ง ผบ.
มาโดยอัตโนมัติ และต้องพ้นไปโดยอัตโนมัติ เพราะแต่งตั้งตามตำแหน่ง ไม่ใช่โดยตัวบุคคล
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
