“บิ๊กตู่” ดับฝันรัฐบาลไม่ให้หยุด 8 วัน เซ็ง ถูกปล่อยข่าวยันไม่มีรัฐบาลไหนทำกัน ขอบคุณ ปชช.วางไว้ใจทำงานมา 1 ปีในระบอบปชต. รับ นายกฯจำเป็นต้องมีรมต.คนนอกที่เหมาะสมด้วย ขอพื้นที่สื่อ เสนอผลงานรบ. อย่าเล่นข่าวขัดแย้ง เล็งจัดตารางลงพื้นที่พบชาวบ้าน
เมื่อเวลา 12.15 น.ที่ทำเนีบบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า มีเรื่องที่อยากเรียนให้ประชาชนและสังคมทราบ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในเรื่องวันหยุดราชการพิเศษ ชดเชยวันสงกรานต์ โดยมีคนไปเผยแพร่ ว่าจะหยุด 8 วัน นั้นไม่ใช่ คงไม่มีรัฐบาลไหนทำแบบนั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้น วันหยุดสงกรานต์ที่เรามีอยู่ 3 วัน ตนได้สั่งการให้ไปพิจารณาว่าจะสอดใส่ตรงไหน อาจจะเป็น 3 ช่วงอย่างน้อย คือถ้าหยุดเสาร์-อาทิตย์ วันจันทร์ไม่หยุด แล้วไปหยุดวันอังคาร ตรงนี้อาจจะเติมวันจันทร์ให้เป็นวันหยุด จะได้รวมเป็น 4 วัน จากนั้นก็จะเหลือวันหยุดสงกรานต์อีก 2 วัน ก็จะหาวาระเติมวันหยุดชดเชยในลักษณะนี้เพื่อให้เกิดความเหมาะสม เพราะการหยุดราชการนานๆไม่ใช่สิ่งที่ดี ประชาชนอาจชอบ แต่บางคนไม่ชอบ หลายคนไม่อยากให้หยุด เพราะการติดต่อราชการจะมีปัญหา ข้าราชการต้องทำหน้าที่ ให้ประชาชนดีที่สุดในการอำนวยความสะดวก เรื่องวันหยุดสงกรานต์จะได้เลิกดราม่ากันสักที
” ขอให้ระมัดระวังและขอร้องสื่อ เรื่องการบิดเบือน การให้ข่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญ อย่างเช่น การปล่อยข่าวว่า รัฐบาลอนุมัติแล้วให้มีการหยุดราชการ 8 วันติดต่อกัน ไอ้อย่างนี้มันควรจะเสนอข่าวหรือไม่ มันเป็นไปได้หรือไม่ ผมพูดหรือยัง รัฐบาลกำหนดออกมาหรือยัง ถ้ายังคนไปเผยแพร่ทำไม่ถูก ท้ายที่สุดหากไม่ได้วันหยุด 8 วัน ก็เล่นงานนายกฯ เล่นงานครม.ใช่หรือไม่ ฉะนั้น วันนี้เรากำลังพยายามหารายได้ให้ประชาชนได้มากที่สุด เพราะอยู่ในวาระพิเศษ โควิด-19 แพร่ระบาด จริงๆอยากจะขอร้องสื่อมวลชน สำนักพิมพ์บรรณาธิการต่างๆ ให้ช่วยกันเสนอข่าวที่เป็นความก้าวหน้า ข่าวดีๆ ยึดพื้นที่ข่าวตรงนี้ให้หน่อย ไม่ใช่เอาแต่ข่าวขัดแย้ง หรือข่าวที่มีผลกระทบกับเสถียรภาพ ซึ่งต่างประเทศเขาดูอยู่ ดังนั้น เรื่องจริงคืออะไร ถามมาก็แล้วกัน อย่าเอาข่าวที่เป็นคำบอกคำอ้าง แหล่งข่าวรัฐบาล อะไรทำนองนี้มา ตราบใดถ้ายังไม่มีการอนุมัติ หรือผมยังไม่ได้นำเข้าครม. มันก็ยังไม่ใช่ทั้งหมด บางทีก็มีการพูดไปก่อนว่าจะได้นู่นได้นี่ แล้วมันก็ไม่ได้ เพราะยังเข้าครม.ไม่ได้ ซึ่งต้องดูในหลายมาตรการ รวมถึงความคิดเห็นของแต่ละกระทรวง ไม่ใช่กระทรวงไหนเสนอขึ้นมาแล้วเห็นชอบ มันไม่ใช่ มันต้องสอบถามข้อสังเกตจากหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ถ้าเขาตอบมาไม่ขัดข้อง มีเงินพอ ก็อนุมัติได้ แล้วก็ต้องติดตามการได้ประโยชน์ของประชาชน โดยตรง ไม่มีการทุจริต กลไกมีอยู่แล้ว”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันจะทำให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ประชาชนไว้วางใจมาปีนี้ทั้งปี เป็นรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย รัฐมนตรีที่ มาจากส.ส และรัฐมนตรีที่เหมาะสม ที่นายกฯจำเป็นต้องมีในส่วนตรงนี้ด้วย อันนี้เป็นการพูดคุยกันในเรื่องของการเมือง แต่ตนไม่อยากให้เอาการเมืองมาพันทั้งหมด หากบ้านเมืองเสียหายใครรับผิดชอบ ใครจะแก้ไหว ถ้าต่างประเทศเชื่อไปด้วยยิ่งไปกันใหญ่ ตอนนี้เรื่องธุรกิจ การค้าการลงทุนก็มีปัญหาอยู่ เรื่องอะไรที่พูดจาไก่เกลี่ยกันได้ เป็นเรื่องของกฎหมายกระบวนการตรวจสอบ ก็ว่ากันไปจนกว่าจะได้ข้อยุติ ซึ่งวันนี้ส่วนใหญ่ชอบนำมาเป็นประเด็นในการสร้างการรับรู้ในเวทีของสื่อเยอะแยะ โดยการพูดของพิธีกร มันก็เลยขัดแย้งไม่จบ เจ้าหน้าที่ก็ทำงานลำบาก เพราะต้องทำงานด้วยตัวบทกฎหมาย ขอฝากเรื่องพวกนี้ไว้ด้วย ในความรับผิดชอบร่วมกัน รวมไทยสร้างชาติ หมายถึงรวมสื่อสร้างชาติด้วย ขอร้องแล้วกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงคำถามที่สื่อตั้งคำถามส่งมา ว่า เป็นคำถามแบบเดิม ทั้งเรื่องพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมือง เรื่องการปรับครม. ส่วนเรื่องการลงพื้นที่ของนายกฯ เรื่องนี้คิดไว้อยู่แล้ว กำลังหาทางว่าจะดำเนินการไปเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนอย่างไร เพราะตอนนี้สถานการณ์โควิด-19 เริ่มดีขึ้นแล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันข้างหน้าตนได้ย้ำให้ทุกกระทรวง เอาเรื่องสำคัญที่เป็นผลสัมฤทธิ์เป็นข้อมูลมาให้สื่อนำไปเผยแพร่ข่าวช่วยรัฐบาลด้วย เพราะการประชุมแต่ละครั้ง มีทั้งการอนุมัติและการปรับกฎระเบียบ ต่างๆ ซึ่งบางทีนำเสนอยากในการที่จะทำให้สังคมสนใจ ดังนั้น ทุกกระทรวงต้องวางแนวทาง ทุกเดือน ทุก 3 เดือน โครงการต่างๆมีผลสัมฤทธิ์ก้าวหน้า อย่างไร และมีคนได้ประโยชน์เท่าไหร่ ต้องทยอยให้ประชาชนรับทราบ ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ รัฐบาลก็จะถูกมองว่าไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะมัวแต่ขัดแย้งกันอยู่หรือเปล่า แต่ตนก็โทษสื่อไม่ได้ เพราะสื่อเป็นคนของประชาชนใช่หรือไม่ ตนพูดปิดหน้ากากยังให้ถอดหน้ากากพูด ซึ่งตนก็พูดไปชัดเจนแล้ว