“ประธานกกต.”เปิดอบรมพตส.11 “อนุทิน”ยกเป็นหลักสูตร ช่วยการเมืองรอบ10ปีไม่ยุ่งเหยิง

“ประธานกกต.” เปิดอบรมหลักสูตร พตส.11 ชี้ เปิดเรียนท่ามกลางโควิด-19 พร้อมจัดมาตรการป้องกันเข้ม ด้าน”อนุทิน” ยกเป็นหลักสูตรสำคัญ ช่วยให้การเมืองในรอบ 10 ปีไม่ยุ่งเหยิง -ขัดแย้ง แนะ ใช้คอนเนคชั่นในทางที่ถูกที่ควร

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 2 กรกฎาคม ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทาราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นประธานพิธีเปิดการศึกษาอบรมและปฐมนิเทศหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 11 หรือ พตส.11 พร้อมด้วย กกต. เลขาธิการกกต. และนักศึกษา พตส. และตัวแทน พตส.แต่ละรุ่น เข้าร่วม โดยนายอิทธิพร กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับคนที่ได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาอบรมในครั้งนี้ ซึ่งมีความพิเศษกว่ารุ่นอื่น เพราะมีการรับนักศึกษาเพิ่มจากเดิม 100 คน เป็น 120 คน และยังแตกต่างจากรุ่นต่างๆที่ผ่านมา เพราะการอบรมในระหว่างที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ทั้งนี้ สำนักงาน กกต.ตระหนักถึงการแพร่ระบาดดังกล่าว โดยมีการกำหนดมาตรการป้องกันระหว่างศึกษาอบรม อาทิ จัดฉากกั้นอะคริลิคแบบใสระหว่างที่นั่ง การจัดที่นั่งเว้นระยะ จัดให้ผู้ศึกษาอบรมสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเข้าอบรม

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทุกคนจะมีโอกาสได้ฝากมรดกเป็นผลงานทางวิชาการ คือการจัดทำเอกสารเชิงวิชาการกลุ่ม ตามกรอบหัวข้อที่หลักสูตรกำหนด และการจัดทำยุทธศาสตร์เชิงปฏิบัติการ โดยมีเป้าประสงค์ยกระดับพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันการเมือง และในการอบรมครั้งนี้ขอให้ทุกคนนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการอบรมร่วมกันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งในประเทศไทยให้ก้าวหน้าไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสมาคมแห่งสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง กล่าวว่า ตนในฐานะที่ผ่านหลักสูตรนี้มาก่อน ขอให้คำยืนยันว่าหลักสูตรนี้มีความสำคัญ มีประโยชน์ และมีคุณค่าอย่างยิ่ง เพราะเป็นหลักสูตรที่ผู้ศึกษามาจากหลากหลายวงการ ทั้งวงการที่เกี่ยวข้องกับราชการและการเมือง รวมทั้งนักธุรกิจเอกชนผู้ที่มีความสนใจต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนี้ตนได้ใช้สายสัมพันธ์ ความใกล้ชิดกัน หารือและแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินกับนักศึกษา พตส.ด้วยกันหลายครั้ง

นายอนุทิน กล่าวต่ออีกว่า ตนมั่นใจว่าทุกคนที่มาร่วมอบรมต้องการที่จะมาทำความเข้าใจระบบบริหารราชการแผ่นดิน ระบบการเมืองให้ดีขึ้น เชื่อว่าไม่ได้เข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตัวเอง แต่เข้ามาร่วมอบรมสร้างสายสัมพันธ์เพื่อหาทางออกให้ประเทศ ทั้งนี้ถ้าไม่มีหลักสูตร พตส.เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา การเมืองไทยจะขัดแย้ง ยุ่งเหยิงยิ่งกว่านี้ เพราะการอบรมดังกล่าวกลายเป็นการสร้างความเข้าใจทางการเมืองซึ่งกันและกัน ทั้งคนที่มาจากคนละฝักคนละฝ่าย สีเสื้อต่างๆ ตำแหน่งที่แตกต่างกัน คนที่เคยมีความขัดแย้งกันเคยมีความไม่เข้าใจกัน ก็จะกลายเป็นการสร้างความเข้าใจ สร้างความรักความผูกพันกัน

Advertisement

“รุ่นผมพตส.3 มีศัตรูทางการเมืองหมายเลข 1 ร่วมอบรมด้วย แต่ตอนนี้กลายเป็นว่ารักกันมีความเข้าใจ และช่วยเหลือกันและกันในทางที่ถูกที่ควร ทั้งนี้คนที่เข้ามาอบรมมีศักยภาพ ดังนั้น เราควรใช้ความสัมพันธ์ของเราในสิ่งที่ถูกที่ควร ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ทำให้ทุกคนเจริญก้าวหน้า แต่ต้องไม่ขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ สิ่งที่ผิดกฎหมาย หรือสิ่งที่จะทำให้เพื่อนเกิดความลำบากใจ มั่นใจว่าเมื่อทุกท่านอยู่ด้วยกันจะมีความสัมพันธ์ความรักใคร่กันมากขึ้น” นายอนุทิน กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image