ฝ่ายค้านเล็งหั่นงบ “ซื้ออาวุธ-รื้อถนน” แนะเปิดให้สื่อถ่ายทอดสด ประชุม “กมธ.” 8กค.นี้

แฟ้มภาพ
ฝ่ายค้านเล็งหั่นงบ “ซื้ออาวุธ-รื้อถนน” แนะเปิดให้สื่อถ่ายทอดสด ประชุม “กมธ.” 8กค.นี้

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เปิดเผยถึงการเตรียมการพิจารณาเม็ดเงิน และโครงการต่างๆ ตามร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวว่า ครั้งนี้จะต้องต่อรองกับรัฐบาลว่างบประมาณหลังสถานการณ์โควิดที่ไม่ก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ และไม่เป็นประโยชน์จะต้องตัดออก นอกจากนี้ ขอให้รัฐบาลสั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปจัดทำโครงการต่างๆ ขึ้นมาใหม่เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านจริงๆ เช่น รื้อโครงการที่เกี่ยวกับหาแหล่งน้ำ ทำถนน หรือสร้างอาคารออกก่อน เพราะผู้แทนราษฎรได้อภิปรายในสภาแล้วว่า ยุคนี้เป็นยุคของการสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประเทศเพื่อความเป็นอยู่ของประชาชนก่อน เพราะจะเหลือเวลาประมาณ 2 เดือน ก่อนที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 ให้สามารถนำโครงการเหล่านี้มาปรับแก้ รวมไปถึงงบประมาณที่ใช้จัดซื้ออาวุธ ยุทโธปกรณ์ต่างๆ จะขอตัดทั้งหมดเพื่อขอนำเงินมาใช้แก้ไขปัญหาที่เป็นประเทศจริงๆ ก่อน และอยากให้ส่วนราชการชี้แจงด้วยว่างานที่ตั้งไว้เกี่ยวข้องหรือแก้ปัญหายุคหลังโควิด-19 อย่างไรบ้างด้วย

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) ในฐานะ กมธ.งบ 64 กล่าวว่า กมธ.จะเริ่มมีการประชุมในวันที่ 8 กรกฎาคม ในหลักการต้องเลือกประธาน กมธ. และตำแหน่งต่างๆ ที่ฝ่ายรัฐบาลมีเสียงมากกว่าจะได้เป็นประธาน จากนั้นคงเสวนาถึงกรอบในการทำงาน ในระยะเวลาประมาณ 3 เดือนกว่าภายใน 105 วัน ในกระบวนการร่าง พ.ร.บ.จะต้องสร้างความยุติธรรมให้กับประชาชนทุกคนที่เป็นเจ้าของภาษีอากรหรือเงินงบประมาณ และต้องให้มีกระบวนการมีส่วนรวมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้เกี่ยวข้องด้วย สรุปต้องอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญ เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนถ้วนหน้าและต้องพิจารณาแก้วิกฤตทางเศรษฐกิจสังคม สาธารณสุข และความมั่นคงของประเทศด้วย

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.งบที่รัฐบาลจัดทำขึ้นมามีจุดอ่อนหลายประการ อาจเรียกได้ว่าจัดงบประมาณที่สร้างความอ่อนแอให้ประชาชน หรืออาจเรียกว่าประชาชนล้มละลายด้านงบประมาณ เพราะเงินถูกใช้เป็นงบรายจ่ายประจำ บุคลากรที่เป็นเงินเดือนเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ องค์กรอิสระ และเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐเรียกว่างบรายจ่ายประจำมากกว่า 2.5 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 76.5 ของงบประมาณทั้งหมด หากพิจารณาฝั่งรายได้ปีนี้แม้จะคาดการณ์ว่าเก็บภาษีได้ 2.67 ล้านล้านบาทเศษ ซึ่งมีผู้เกี่ยวกับออกมาสัมภาษณ์แล้วว่าไม่น่าจะเก็บถึง 2.5 ล้านล้านบาทเศษด้วยซ้ำ

“อยากให้การพิจารณาครั้งนี้เป็นระบบเปิดที่ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ในการแสดงความคิดเห็น เสนอข้อมูล ถ้าไม่ผิดกฎหมายควรเปิดให้สื่อมวลชนได้ถ่ายทอดสื่อสารสร้างความเข้าใจที่ดี และรัฐบาล สำนักงบประมาณต้องมีข้อมูลที่เพียงพอให้ กมธ.และผลงานหรือการประเมินผลถึงความคุ้มค่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน อีกประเด็นมีงบผูกพันข้ามปี ที่เป็นภาระเช่น ซื้ออาวุธ เรือดำน้ำ หรือก่อสร้าง เมื่อรวมแล้วมีจำนวนมากน่าจะเกินเพดานร้อยละ 10 ของงบประมาณประจำปี ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังห้ามไว้ แต่ทราบว่ารัฐบาลและสำนักงบประมาณประดิษฐ์คำว่าขึ้นมารายการใหม่ ไม่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมาย คงต้องหาข้อยุติ มิเช่นนั้นจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย” เลขาธิการพรรค ปช.กล่าว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image