ตร.มักกะสัน-นราธิวาส บุกจับ”หลานสาวพลทหารฯ ถูกซ้อมตาย”ถึงที่ทำงาน กรมสวัสดิการเด็ก พม.ในกรุงเทพ ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยเอกสาร-คอมพิวเตอร์ หลังร้องความเป็นธรรมให้น้าชาย มหาบัณฑิตมธ.ทหารเกณฑ์ ที่ถูกครูฝึกทหารทำโทษเสียชีวิต
ตร.ถือหมายจับบุกรวบหลานสาวทหารเกณฑ์ถูกซ้อมตาย
เป็นอีกคดีที่ได้รับความสนใจจากนักสิทธิมนุษยชน และประชาชนทั่วไป เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 กรกฎาคม ที่สน.มักกะสัน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.มักกะสัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสภ.เมือง จ.นราธิวาส ร่วมจับกุมตัว น.ส.นริศราวัลถ์ หรือเมย์ แก้วนพรัตน์ อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเป็นหลานสาวของ พลทหารวิเชียร เผือกสม ที่ถูกทำโทษจนเสียชีวิต เมื่อปี 2554 สาเหตุเพราะหลบหนีจากหน่วยฝึก 2 ครั้ง หลังน.ส.นริศราวัลถ์ ได้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิต
การจับกุมดังกล่าว เป็นไปตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาสที่ 104/2559 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 ในข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร และนำเข้า สู่ระบบคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน สืบเนื่องจากที่น.ส.นริศราวัลถ์ ได้โพสต์ข้อมูลพาดพิงเกี่ยวกับการพิจารณาสั่งพักราชการทหารที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้าชาย ส่วนบางรายไม่สั่งพักราชการ ว่าอาจเป็นการเลือกปฏิบัติ โดยได้โพสต์ไว้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2559
โดยตร.เข้าจับกุมหญิงสาวดังกล่าวที่กรมกิจการเด็กและเยาวชน ถนนนิคมมักกะสัน แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 11.00 น. น.ส.นริศราวัลถ์ ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่ขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยินดีที่จะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่สภ.เมือง จ.นราธิวาส
เผยเหตุโพสต์ข้อความเป็นธรรมให้น้าชาย
สำหรับน.ส.นริศราวัลถ์ ได้เผยแพร่ข้อความในเฟซบุ๊กจนได้รับความสนใจจากสังคมออนไลน์ และกลายเป็นข่าวใหญ่ กรณีพลทหารวิเชียร เผือกสม น้าชาย ซึ่งสมัครเป็นทหารเกณฑ์ และถูกส่งไปฝึกทหารใหม่ที่จังหวัดนราธิวาส ถูกครูฝึกทหารรุมทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เมื่อเดือนมิถุนายน 2554
ญาติได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ในคดีอาญา แต่เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นทหารยศต่ำกว่าพันตรี จึงอยู่ในอำนาจการสอบสวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กระทรวงยุติธรรม หรือ ป.ป.ท. ทั้งนี้ การสอบสวนดำเนินมานานกว่า 4 ปี
ซึ่งต่อมาทางคณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้ส่งหนังสือแจ้งการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของพลทหารวิเชียร ระบุว่า ร้อยโทหนึ่งนายกับพวกรวม 10 คน ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และประมวลกฎหมายอาญาทหาร พ.ศ.2473 มาตรา 30 วงเล็บ 4 ซึ่งหลังจากนี้จะมีการส่งสำนวนคดีไปยังพนักงานอัยการต่อไป
ส่วนคดีแพ่งมารดาของพลทหารวิเชียร ได้ยื่นฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนทางละเมิดต่อหน่วยงานต้นสังกัด ปรากฏว่าสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ โดยศาลแพ่งสั่งให้กองทัพบกเป็นผู้ชดเชยเยียวยาค่าเสียหายแก่มารดาของพลทหารวิเชียร เป็นเงิน 7,049,213 บาท
พลทหารวิเชียร เผือกสม เป็นพลทหารประจำกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดสงขลา เพิ่งสึกจากพระ และเข้ารับการเกณฑ์ทหาร โดยก่อนหน้านั้นสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาการศึกษาพัฒนาชุมชน จากภาควิชาการพัฒนาชุมชน คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ต่อมาเมื่อเวลา 17.20 น. ภายหลังการทำบันทึกจับกุมนานกว่า 4 ชั่วโมง น.ส.นริศราวัลถ์ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบตนโดนออกหมายจับ ในข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ทั้งนี้ตนยินดีให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งการโพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าวนั้นสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่
หลังจากนี้ตนจะต้องเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่สภ.เมือง จ.นราธิวาส ส่วนจะประกันตัวหรือไม่นั้นต้องคุยรายละเอียดกับทางพนักงานสอบสวนอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตนขอขอบคุณทุกกำลังใจ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก การโทรศัพท์มาสอบถาม
ยังไม่รู้ใครแจ้งความ-ข้องใจไม่ออกหมายเรียกก่อน
สำนักข่าวประชาไท รายงานว่า น.ส.นริศราวัลถ์ จะเดินทางโดยรถตู้ไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากนราธิวาส และตำรวจหญิง รวมทั้งจะมีเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิผสานวัฒนธรรมร่วมเดินทางไปด้วย 2 คน
พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความของนริศราวัลถ์จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้สัมภาษณ์ระหว่างลูกความทำบันทึกการจับกุมว่า ในเบื้องต้นยังไม่ทราบพฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหาและยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กล่าวหาหรือกล่าวโทษ ก่อนหน้านี้นริศราวัลถ์ไม่เคยได้หมายเรียกให้ไปรายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาก่อนแต่อย่างใด ซึ่งตามกฎหมายข้อหาที่มีโทษสูงไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียกก็ได้ แต่ในฐานะทนายเห็นว่ากรณีนี้ลูกความมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและพฤติการณ์ความผิดไม่ได้ร้ายแรง ควรออกหมายเรียกก่อน
พูนสุขกล่าวอีกว่า นริศราวัลถ์เรียกร้องความยุติธรรมให้น้าชายมาตลอดแต่กลับถูกกระทำหลายอย่างทั้งถูกข่มขู่ และกระทั่งถูกดำเนินคดี สิ่งที่สังคมควรต้องตอบคือ ทำไมไม่มีใครถูกฟ้องอาญาในคดีที่น้าชายของเขาเสียชีวิต นอกจากนี้วันนี้ก็ยังมีนักกิจกรรมที่ทำเรื่องการละเมิดสิทธิ 3 คนที่ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นประมาท รัฐควรตรวจสอบการละเมิดมากกว่ามาฟ้องคนตรวจสอบ
“ที่ผ่านมามีการฟ้องร้องคนที่ปกป้องสิทธิมาโดยตลอด แม้จะพิสูจน์ได้ในภายหลังว่าไม่ผิด แต่ก็เป็นภาระอย่างมากสำหรับคนทำงาน” พูนสุขกล่าว
สำนักข่าวประชาไทรายงานต่อมาว่า ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ประกาศข่าวภาคสนามรายการข่าว 3 มิติ ไทยทีวีสีช่อง 3 โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Thapanee Ietsrichai’ เมื่อเวลา 2.04 น. ว่า นริศราวัลถ์ เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.เมืองนราธิวาส และได้รับการประกันตัว โดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในคดีที่มี
