‘สมชัย’ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้งซ่อมลำปางให้ ‘เสรีพิศุทธ์’

‘สมชัย’ หอบหลักฐานทุจริต ลต.ซ่อมลำปางให้ ‘เสรีพิศุทธ์’

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 9 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต เข้ายื่นข้อมูลรายงานและหลักฐานเหตุทุจริตเลือกตั้ง เขต 4 จ.ลำปาง ต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย

โดยนายสมชัยกล่าวว่า ตนได้ใช้ความรู้ความสามารถในฐานะอดีต กกต.และพีเน็ต ในการออกแบบสอบถามข้อมูลกับประชาชนในพื้นที่เลือกตั้ง ซึ่งพบข้อมูลเหตุการทุจริตเลือกตั้งแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.เหตุทุจริตมาจากข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐวางตัวไม่เป็นกลาง ซึ่งปรากฏมีผู้ใหญ่บ้าน 47% ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 37% อสม. 52% กำนัน 25.5% เช่น คอยเดินแจกเงินตามบ้าน หัวละ 300 บาท รวมถึงการให้ผู้ใหญ่บ้านสำรวจทำบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่อยู่ใช้สิทธิในวันเลือกตั้ง เพื่อนำบัญชีรายชื่อดังกล่าวไปใช้สิทธิเลือกตั้งแทน ซึ่งล้วนเป็นการกระทำความผิดของข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐ ตามมาตรา 78 มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่สองหมื่นถึงสองแสนบาท และถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี

นายสมชัยกล่าวต่อว่า 2.เหตุมาจากรัฐมนตรี รวมถึงรองนายกรัฐมนตรี และบางคนเป็นกรรมการบริหารพรรค ที่สัญญาว่าจะให้ อาทิ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่ไปตรวจราชการในพื้นที่เขตเลือกตั้ง ในช่วงที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งแล้ว โดยรับปากสัญญาว่าจะให้โครงการต่างๆ ถึง 12 โครงการ อาทิ โครงการสร้างโรงอบสมุนไพร มูลค่า 16 ล้านบาท โครงการก่อสร้างอาบเก็บน้ำแม่ปะ มูลค่า 150 ล้านบาท ซึ่งไม่ระบุว่าใช้เงินงบประมาณส่วนใด และเมื่อตรวจสอบในงบฯปี’63 และ 64 ไม่พบว่ามีการเสนอโครงการดังกล่าว ซึ่งขอฝาก ส.ส.ของพรรค สร.ไปตรวจสอบด้วยว่าจะมีการนำงบประมาณโควิดมาใช้หรือไม่ นอกจากนี้ ในวันที่ 15 มิถุนายน ซึ่งเป็นช่วง 5 วันก่อนการเลือกตั้ง โดยผู้ช่วยรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับคณะทำงานขับเคลื่อนศูนย์ส่งเสริมและขยายพันธุ์พืชในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อเดินหน้าก่อสร้างอาคารโรงอบสมุนไพร ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการเสนอให้ หรือ สัญญาจะให้ต่อชุมชน เป็นความผิดตามมาตรา 73(2) นอกจากมีโทษถึงตัวแล้ว หากกรรมการบริหารกระทำเองย่อมมีโทษถึงขั้นยุบพรรค ตามมาตรา 132 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

“ผมยังขอตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนเลือกตั้ง 2 วัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้ลงไปประชุมกับข้าราชการที่ศาลาว่าการจังหวัดลำปาง จากนั้นก็ไปประชุมต่อกับประชาชน และกำนันผู้ใหญ่บ้านเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง ทั้งที่จังหวัดลำปางไม่ใช่พื้นที่ภัยแล้งตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศไว้” นายสมชัยกล่าว

Advertisement

นายสมชัยกล่าวอีกว่า 3.เหตุทุจริตมาจากกรณีการจ่ายเงินซื้อเสียง ซึ่งจากการสำรวจประชาชนในพื้นที่ 102 ราย พบว่า 97 คน ให้ข้อมูลตรงกันว่ามีการซื้อเสียง คนละ 300 บาท และใน 102 คนนี้ มี 25 คน พร้อมเป็นพยานให้การต่อ กกต. และ 4.ปัญหาการสวมสิทธิเลือกตั้งแทนบุคคลอื่น โดยนายสมชัยได้เปิดเผยคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นหลักฐานการสวมสิทธิในพื้นที่เลือกตั้ง เขต 4 จ.ลำปาง พร้อมกับตั้งคำถามถึงสถานการณ์ที่ประเทศกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การเดินทางกลับภูมิลำเนายากลำบาก แต่ทำไมจำนวนผู้มาใช้สิทธิกลับใกล้เคียงการเลือกตั้งทั่วไป นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่ประชาชนไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันว่าถูกสวมสิทธิไปเลือกตั้งแทนอีก 30 ราย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ ทั้งส่วนที่เป็นพยานบุคคล และพยานวัตถุ เราจะส่งไปให้พรรค สร. เพื่อให้พรรค สร.ส่งไปยัง กตต.เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image