“ก้าวไกล” เปิดตัว “อิศราวุธ” ลงเลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการ เขต 5 ไม่หวั่นชนกันเองในพรรคร่วมฝ่ายค้าน ชี้เป็นสิทธิของแต่ละพรรค เชื่อ เอาชนะได้ด้วยการเมืองแบบใหม่
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ก.ค. ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค พร้อมสมาชิกพรรคก้าวไกล แถลงเปิดตัว นายอิศราวุธ ณ น่าน ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม เขต5 จังหวัดสมุทรปราการ
โดยนายอิศราวุธ กล่าวว่า ขอแสดงความดีใจกับชาวสมุทรปราการ เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น โดยจากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ทำให้เรามองเห็นว่าการทำงานของรัฐบาล และการบริการงานที่ล่าช้ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ที่พี่ไม่พอใจกับการใช้งบประมาณไม่เหมาะสม ตนเชื่อมั่นว่าพรรคก้าวไกลที่ทำงานตรวจสอบงบประมาณของรัฐบาลและเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนนั้น มีความพร้อมในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ จากกระแสของประชาชนที่อยากจะส่งสัญญาณแก่รัฐบาลถึงความไร้ประสิทธิภาพ จะทำให้เราชนะการเลือกตั้งสมุทรปราการ เขต 5 ได้
ด้านนายชัยธวัช กล่าวว่า เราเชื่อมั่นว่าบทบาทของเราตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่จนมาถึงก้าวไกล ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการทำงานการเมืองแบบใหม่ของเราตอบโจทย์ประชาชนอย่างไร การทำงานอย่างสร้างสรรค์มีคุณภาพอย่างไร สิ่งที่เราพิสูจน์ให้เห็นจะสร้างการยอมรับได้มากกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะในสมัยอนาคตใหม่เราอาจจะยังไม่ได้แสดงให้ประชาชนเห็นแต่ระยะเวลาที่ผ่านมา เราคิดว่าประชาชนเห็นแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายตรัยวรรธ์ อิ่มใจ ผู้สมัครชิงตำแหน่งเลือกตั้ง ได้ประกาศยุติบทบาทกับพรรคนั้น ทางพรรคได้คุยเรื่องนี้กันหรือไม่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค กล่าวว่า กระบวนการสรรหาของพรรคได้คัดเลือกจากผู้สมัคร 4 คน โดยเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารพรรคมีมติเลือกนายอิศราวุธ และได้แจ้งแก่นายตรัยวรรธ์แล้วด้วยตนเอง แน่นอนว่าต้องมีความเสียใจ แต่อย่างไรก็ตาม เราได้ทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคและผู้สมัครหลังจากที่มีมติออกมาแล้วว่าเราตัดสินใจด้วยเหตุผลอย่างไร
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า กระบวนการสรรหาของพรรคจะมีการรับฟัง หาข้อมูลจากทุกทีมงานที่เสนอตัวเข้ามา และหาข้อมูลต่างๆประกอบการวิเคราะห์จนได้ข้อสรุป ทั้งนี้สังคมไทยอาจจะยังไม่ชินกับการสร้างพรรคการเมืองแบบเปิดให้มีการแข่งขันกันภายในพรรค คัดเลือกบุคคลที่จะเหมาะสมที่สุดเป็นตัวแทนประชาชน ทั้งนี้ ได้มีการชี้แจงให้กับสมาชิกพรรคแล้วและเชื่อมั่นว่าสมาชิกส่วนใหญ่เข้าใจเพราะ ทุกคนล้วนเข้ามาในพรรคเพราะสนับสนุนนโยบาย อุดมการณ์และวิธีการทำงานของพรรค ไม่ได้ยึดโยงกับคนใดคนหนึ่ง เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่เราสามารถนำมาพูดคุยกันได้
เมื่อถามว่าการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาแม้พรรคก้าวไกลจะได้รับคะแนนนิยม แต่ผลกลับออกมาตรงกันข้าม การเลือกตั้งตรงนี้จะเป็นโจทย์ในการหาเสียงการเลือกตั้งครั้งใหม่อย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายมาก เพราะเราไม่สามารถใช้อิทธิพลหรือกลไกรัฐได้เหมือนกับฝ่ายรัฐบาล อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้แม้จะเป็นการเลือกตั้งซ่อมก็ต้องถือว่าเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกของพรรคก้าวไกล เราวางแผนในการรณรงค์หาเสียงเพื่อเอาชนะให้ได้อย่างเต็มที่ นั่นคือเป้าหมาย เราไม่ได้ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อแพ้ หรือเป็นที่ 2 แต่ตั้งใจอย่างเต็มที่เพื่อที่จะเป็นที่หนึ่งให้ได้ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับประชาชน
“ผมเชื่อว่าประชาชนเห็นแล้วว่ารัฐบาลได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าล้มเหลวอย่างไรในการบริหารประเทศ ถึงวันนี้ก็ยังวุ่นวายกับการจัดสรรผลประโยชน์ให้ลงตัวภายในพรรค ขณะที่ประเทศกำลังประเชิญปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน รัฐบาลทำให้เราเห็นว่าเขาไม่มีความพร้อม ไม่มีวิสัยทัศน์ ไม่มีประสิทธิภาพที่จะนำพาประเทศไปต่อ หรือตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้ ยิ่งเห็นได้ชัดจากการจัดสรรงบประมาณที่กำลังพิจารณาอยู่ในสภาตอนนี้ เราเชื่อมั่นว่าประชาชนจะเห็นว่าการเพิ่มพลังให้กับพรรคฝ่ายค้านในรัฐสภาจะมีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อประชาชน มากกว่าการเพิ่มพลังให้กับฝ่ายรัฐบาล เพราะฝ่ายค้านที่เพิ่มขึ้นหมายถึงการตรวจสอบที่มากขึ้นเพื่อดำเนินนโยบายและจัดสรรงบประมาณที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริงมากที่สุด และสกัดกั้นไม่ให้รัฐบาลอาศัยความเดือดร้อนของประชาชนแสวงหาผลประโยชน์ แย่งชิงตำแหน่งจากเค้กก้อนใหญ่”
เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเหมือนการแข่ง สามเส้า ทั้งพปชร. พท. และกก.โดยเฉพาะกับพท.และกก.ที่อาจจะตัดคะแนนกันเองจนพปชร.จะได้รับชัยชนะหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ในพื้นที่เขต 5 สมุทรปราการ ส.ส.เขตคนเดิมเป็นฝั่งรัฐบาล แต่เมื่อโดนใบเหลืองจนนำมาสู่การเลือกตั้งซ่อม ตนคิดว่าทุกพรรคมีสิทธิที่จะเสนอตัวเลือกให้ประชาชน เรื่องตัดคะแนนเป็นเรื่องภายในของพรรคการเมือง แต่เราต้องให้เกียรติการตัดสินใจของประชาชนว่า โดยเฉพาะพรรคร่วมฝ่ายค้านนั้น ตนคิดว่าเราเคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกัน และต้องย้ำว่าเราเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่เป็นพรรคการเมืองคนละพลพรรค เรามีจุดยืน มีแนวทางการทำงานที่ต่างกัน
