‘ธนาธร’ หวังทุกฝ่ายผลักดันแก้รธน. ปัดชักใยเบื้องหลังชุมนุมนศ.

‘ธนาธร’ หวังทุกฝ่ายผลักดันแก้รธน. ปัดชักใยเบื้องหลังชุมนุมนศ. แจงคารวะสองหนุ่มระยอง เหตุกล้าหาญพูดแทนใจคนส่วนใหญ่ของประเทศ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 18 กรกฎาคม ที่ชั้น 8 ห้องวิวัฒนไชย อาคารไทยซัมมิท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดงาน เวทีเสวนาสาธารณะ New Consensus Thailand ตอนองค์กรอิสระไทย อย่างไรต่อดี ? : คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า เราจัดงานวันนี้ขึ้นมาเพื่อชี้ให้พี่น้องประชาชนเห็นว่า กกต. ในฐานะองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 2560 มีปัญหาอย่างไรบ้าง แล้วทิศทางที่จะเดินต่อไปจะเป็นอย่างไร หวังว่าการเสวนาครั้งนี้จะนำไปสู่ข้อเสนอการปฏิรูปองค์กรอิสระ และนำไปสู่การเห็นพ้องต้องกันของประชาชน ที่จะเรียกร้องให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้

เมื่อถามว่า ในงานนี้มีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มาร่วมด้วย ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่พรรคการเมืองต่างๆ จะเห็นพ้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการแก้ไของค์กรอิสระ ไม่ได้มีแต่คณะก้าวหน้า หรือพรรคก้าวไกล เท่านั้น แต่ยังมีภาคประชาสังคม และพรรคการเมืองอื่นที่พูดเรื่องนี้ ดังนั้นอะไรที่ร่วมกันได้เราก็ยินดีร่วมมือกับทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้มีการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก หรือ Free YOUTH คิดว่าจะไปร่วมให้กำลังใจหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า แม้ตนไม่ไปเข้าร่วม ยังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ชักใย หรือผู้สนับสนุน แต่ตนอยากบอกว่า นักศึกษากลุ่มนี้ทำกิจกรรมด้วยเจตจำนงที่แน่วแน่ พวกเราไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ดังนั้นก็คงไม่เดินทางไปร่วมการชุมนุม เพราะกลัวไปแล้ว จะถูกข้อกล่าวหาอย่างที่กล่าวไป ว่าเราอยู่เบื้องหลัง ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า จะไม่ให้กำลังใจ แต่จะส่งกำลังใจให้กลุ่มนักศึกษา และกลุ่มประชาชนทุกหมู่เหล่าที่มีความต้องการเรียกร้องให้ประเทศไทยกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย และอยากให้กำลังใจทุกคนต่อสู้กับเผด็จการ ขณะเดียวกันก็อยากจะเชิญพี่น้องประชาชน สนับสนุนนักศึกษากลุ่มนี้ด้วย ให้ช่วยกันไปร่วมชุมนุมในครั้งนี้ เพื่อแสดงเสียงของประชาชนว่า เราไม่ต้องการรัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจ และรัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหาร

เมื่อถามถึง กรณีการเข้าไปคารวะ นายภานุพงศ์ จาดนอก และนายณัฐชนน พยัคฆพันธ์ สองแกนนำเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ถูกมองว่าเป็นการสนับสนุนการใช้คำหยาบคายหรือไม่ ว่า การแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ไม่ผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่ชอบธรรมในระบอบประชาธิปไตย ในหลายๆ ประเทศ หากประชาชนไม่พอใจผู้นำ ก็ใช้คำศัพท์ที่แรงกว่านี้อีก จึงไม่ใช่เรื่องการใช้คำหยาบหรือไม่ใช้คำหยาบ ตนเห็นว่าพวกเขามีความกล้าหาญที่จะท้าทายกับอำนาจที่ไม่เป็นธรรม ขณะนี้กลุ่มคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลก็ถูกคุกคาม และถูกยัดข้อหาถูกยัดคดี ซึ่งเป็นสิ่งที่คนธรรมดากลัว เราจึงจำเป็นต้องปกป้องกันและกัน เราจำเป็นจะต้องขอบคุณคนที่กล้าหาญ ที่ลุกขึ้นมาพูดในสิ่งที่คนทั่วไปไม่กล้าพูด น้องทั้งสองคนได้พูดแทนคนส่วนใหญ่ของประเทศ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องขอบคุณกัน วันนั้นน้องทั้งสองคนเดินทางไปที่รัฐสภา จึงได้ทักทายกัน ไม่มีอะไรมากกวว่านั้น ตนยืนยันว่าทั้งสองคนทำไปด้วยเจตจำนงที่แน่วแน่ของพวกเขา เราไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจใดๆ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image