“สุวัจน์” จี้มือดีเสียสละ ร่วมเป็นดรีมทีม “บิ๊กตู่” ฝ่าวิกฤตโควิด ยัน “ชาติพัฒนา” ไม่มีเงื่อนไขปมปรับครม.

“สุวัจน์” จี้มือดีเสียสละ ร่วมเป็นดรีมทีม “บิ๊กตู่” ฝ่าวิกฤตโควิด ยัน “ชาติพัฒนา” ไม่มีเงื่อนไขปมปรับครม.

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ผ่าน รายการคนหลังข่าว สถานีโทรทัศน์ TNN 16 ถึงประเด็นการปรับครม.หลังจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ 4 รัฐมนตรีลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีว่า มองว่าการลาออก เป็นสปิริตทางการเมือง ทำให้นายกฯ มีความสะดวกใจในการปรับคณะรัฐมนตรีไม่ต้องอึดอัด ใครจะไปใครจะมาจะเป็นคนนอกหรือเป็นคนในพรรคพลังประชารัฐ จากนี้เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลและเป็นหัวหน้าทีมทั้งหมด จะต้องผ่าวิกฤตเศรษฐกิจ ผ่าวิกฤตโควิด เป็นความรับผิดชอบที่จะต้องตัดสินใจอย่างไร

ทั้งนี้ปัจจุบัน ประเทศวิกฤต เป็นวิกฤตที่ไม่เคยเห็นครั้งใดจะวิกฤตเท่าครั้งนี้ วิกกฤตทั้งทางด้านสาธารณสุข โควิด วิกฤตด้านเศรษฐกิจ สมัยก่อนเรามีวิกฤตเศรษฐกิจ เป็นเรื่องต้มยำกุ้ง เกิดขึ้นเฉพาะสถาบันการเงิน ไม่ได้ลุกลาม ต่อมาเป็นเรื่องสึนามิ 2546-2547 ก็กระทบอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเรื่องเดียว ต่อมาก็เป็นเรื่องโรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก แต่ไม่มีขนาดของความรุนแรงที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน แต่วันนี้วิกฤตทั้งโควิด และเศรษฐกิจไปทั่วโลก ฉะนั้น ถ้าบอกว่าภาวะบ้านเมืองในวันนี้ เป็นภาวะไม่ปกติ เป็นภาวะที่ทุกคนต้องแทคทีม เป็นดรีมทีม เหมือนตอนที่เกิดโควิดครั้งแรก ทุกคนให้ความร่วมมือตามคำแนะนำคุณหมอ เราถึงประสบความสำเร็จ อันนี้เป็นตัวอย่างทำไมเราต้องแทคทีมกัน

วันนี้จะไปเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งรอบแรกประชาชนคิดว่าชีวิตปลอดภัยจากโควิดแล้ว แต่เรื่องปากท้อง ต้องกินอยู่ คาดหวังว่ารัฐบาลต้องแก้ปัญหา ต้องการคนเก่งเข้ามาแก้ปัญหา ข่าวเรื่องปากท้องประชาชน รอฟังทุกวันและฝากความหวังว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ จะทำให้เห็นแสงสว่าง ความเชื่อมั่นว่า นายกรัฐมนตรี กับทีมชุดใหม่ จะฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไปได้ การปรับครม.ครั้งนี้ คิดว่า อยู่บนความคาดหวังของประชาชนสูงมาก อันเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากโควิด หมายความว่า บรรยากาศทางการเมือง เข้าใจปัญหาเศรษฐกิจ จะต้องเข้าใจปัญหาของวิกฤต เข้าใจอารมณ์ของประชาชน

Advertisement

“ผมกำลังจะบอกว่าฝ่ายการเมืองหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่บนพื้นฐานของการเสียสละ คือ 1. เสียสละที่จะไม่เป็น 2.เสียสละที่จะเป็น ถ้าเสียสละที่เป็น คือ ต้องการคนเก่ง คนดี มีความรู้ มีความสามารถ แต่ไม่อยากเข้าการเมืองเพราะกลัวเสียภาพลักษณ์ การเมืองไม่ดี การเมืองถูกตรวจสอบ ถูกวิจารณ์ ทุกคนรู้สึกว่าไม่อยากเปลืองตัว เป็นงานหนัก งานท้าทาย เป็นงานที่ต้องเจ็บตัว ฉะนั้น ผมคิดว่าคนที่จะเข้ามาถ้าคุณเป็นคนเก่งแก้ไขปัญหาประเทศชาติได้ แม้นจะต้องเจ็บตัว ถูกวิจารณ์บ้าง ทุกคนก็ต้องเสียสละ เสียสละที่จะต้องเข้ามาช่วยนายกฯ เสียสละที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาล ต้องยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัวบ้าง แต่ประเทศชาติได้ คุณก็เข้ามาเถอะ เราทำงานการเมืองทุกคนก็อยากประสบความสำเร็จ เมื่อมีโอกาสการทำงาน รับปากประชาชน ทำให้เรามีความรู้สึกว่าเป็นโอกาสของเรา แต่เนื่องจากมันมีวิกฤตโควิด เราต้องยอมเสียสละบ้าง ช่วงนี้ ปี สองปี ดูวิกฤตเศรษฐกิจแล้ว มันจำเป็นต้องได้ทีมที่เหมาะสมกับปัญหาตรงนี้ หรือมีคนที่มีความสามารถกว่าเรา ถ้าเราเข้าใจบรรยากาศของบ้านเมือง เข้าใจปัญหาเศรษฐกิจ เราก็ต้องสนับสนุนหรือเปิดโอกาส เสียสละให้เขา”นายสุวัจน์ กล่าว

ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า ตัวอย่างเช่น เมื่อสองวัน ที่ทหารอียิปต์คนเดียว วุ่นวายกันไปหมด นั้นแสดงว่า พี่น้องประชาชนคาดหวังกับการบริหารงานของรัฐบาลสูงมาก ต้องมาจัดการเรื่องโควิด มาจัดการเรื่องเศรษฐกิจ ถ้าเราได้ดรีมทีม ทีมที่ดีที่สุด และท่านนายกฯ เป็นหัวหน้าทีม เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี เหมือนที่ผ่านมาเรามักจะติดลบ วันนี้ไม่ติดลบแล้ว เราเป็นบวก เราต้องเสียสละ ในที่สุดการเมืองต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนได้

สมมุติเป็นการเมืองในสภาวะปกติ เราเลือกตั้งกันแล้ว เกมในเรื่องสัดส่วนเป็นวัฒนธรรมทางการเมือง แต่วันนี้สถานการณ์มีความอ่อนไหว มีความจำเป็นในเรื่อง เศรษฐกิจ วิกฤตโควิด เราจะต้องฝ่าฝันกันไป จะต้องมีการปรับอะไรกันบ้าง เพื่อให้มีความเหมาะสม ตนก็คิดว่า นายกรัฐมนตรี เป็นผู้พิจารณาได้

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคชาติพัฒนา ไม่มีความกังวลอะไรเลย เพราะตั้งแต่พรรคชาติพัฒนาเข้าร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรอยู่แล้ว การเข้าร่วมรัฐบาลในครั้งนั้นก็ถือว่าพล.อ.ประยุทธ์ เหมาะสมที่สุดกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี วันนี้ก็เหมือนเดิม ไม่มีเงื่อนไข เป็นเรื่องของนายกฯ เลย มันเหมาะ มันควรอย่างไร ในสถานการณ์อย่างนี้ เหมือนทีมฟุตบอล ไม่ได้หมายความว่าคนนี้ไม่ดี ไม่เก่ง แต่วันนี้ กำลังสู้กับทีมไหน ถ้าสู้กับทีมนี้ ต้องใช้ผู้เล่นประเภทนี้ลง คุณเล่นมาแล้วคุณพัก ต้องอ่านสถานการณ์ อันนี้ต้องมอบให้นายกฯ เป็นผู้รับผิดชอบ สะดวกใจในการตัดสินใจ

ฉะนั้น พรรคชาติพัฒนาตั้งแต่เข้าร่วมรัฐบาล นายกฯ มอบหมายงานอะไรให้เราก็ทำ ไม่เคยต่อรองเรื่องตำแหน่งอะไร

“ให้ท่านสะดวกใจ เราไม่มีความอยากได้ เมื่อท่านนายกฯ เป็นหัวหน้าทีม และคิดว่าพรรคชาติพัฒนามีประโยชน์อะไร ควรจะไปช่วยท่านในด้านไหน ท่านตัดสินใจได้เลย ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น” นายสุวัจน์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image