ปูภาพ ‘เหยื่ออุ้มหาย’ กลางถนนราชดำเนิน มวลชนทยอยร่วมไม่ขาดสาย คาดเฉียด 3 พัน

ปูภาพ ‘เหยื่ออุ้มหาย’ กลางถนนราชดำเนิน มวลชนทยอยร่วมไม่ขาดสาย คาดเฉียด 3 พัน

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน กทม. ซึ่งเป็นจุดนัดชุมนุมโดย กลุ่มเยาวชนปลดแอก เพื่อต่อต้านเผด็จการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตั้งแต่เวลา 16.00 น. มีประชาชนสวมใส่เสื้อผ้าสีดำรอเวลานัดหมาย 17.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.สำราญราษฎร์ตรึงกำลังเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีการนำต้นไม้มาประดับบริเวณรอบอนุสาวรีย์ฯโดย กทม.ตั้งแต่ช่วงบ่าย ต่อเนื่องจนถึงเวลาใกล้ชุมนุม

ต่อมาเวลา 16.19 น. ประชาชนเดินเท้าลงถนนราชดำเนิน ชูสามนิ้ว พร้อมป้าย ‘ยิ่งอยู่ประเทศยิ่งพัง’ พร้อมตะโกน ‘ออกไปๆๆๆ’ ขับไล่รัฐบาล บรรยากาศทั่วไป มีประชาชนทยอยเดินทางเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง มีการเขียนป้ายด้วยลายมือ มีข้อความ ‘ยิ่งอยู่ประเทศยิ่งพัง’ , ‘ประยุทธ์ Get Out’ , ‘เขตปลอดโควิด อย่าอ้าง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน’ เป็นต้น โดยประชาชนบางรายคาดหน้ากากผ้ามีข้อความ ‘ยุบสภา’ พร้อมตะโกนเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยุบสภา

เวลา 16.25 น. นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ เดินทางมาถึง และขึ้นปราศรัย โดยขอร้องไม่ให้ตำรวจขัดขวางประชาชนในการชุมนุม

Advertisement

เวลา 16.40 น. พ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.สน.สำราญราษฎร์ อ่านข้อกฎหมายผ่านเครื่องขยายเสียง แจ้งถึงสถานการณ์โควิดที่กำลังแพร่ระบาด ขอให้เว้นระยะห่างทางกายภาพ ใครฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท รวมถึงอ่านข้อกฎหมายอื่นๆ ตาม พ.ร.บ.การจราจร และ พ.ร.บ.ความสะอาด โดยประชาชนต่างส่งเสียงตะโกน ‘ออกไปๆๆๆ’ และโห่ร้องตลอดเวลา บางส่วนยืนชู 3 นิ้ว หน้าแถวของเจ้าหน้าที่อีกด้วย

เวลา 17.00 น. มวลชนเดินเท้าลงบนถนนราชดำเนิน ชูสามนิ้ว ตะโกน ‘เราไม่ยอม’ กึกก้อง โดยมีตำรวจตั้งแถวล้อมอนุสาวรีย์ฯ ซึ่งมีการติดตั้งแผงเหล็กกั้นตลอดแนว

เวลา 17.20 น. นายทัตเทพ เรืองประไพเสรีกิจ หรือฟอร์ด เลขาธิการกลุ่มเยาวชนปลดแอก กล่าวว่า พวกตนมีแนวโน้มตกงาน 5 แสนคน เยาวชนอย่างตนจะลืมตาอ้าปากได้อย่างไร การแพร่ระบาดครั้งใหญ่เกือบคุมได้ แต่รัฐบาลกลับการ์ดตกเสียเอง ปล่อยให้แขกวีไอพีเข้ามาพร้อมเชื้อ หากมีการระบาดรอบ 2 รัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร ตนเคยคาดหวังว่าการเลือกตั้งจะทำให้ประชาชนมีเสรีภาพ แต่กลับถูกคุกคามเหมือนเดิม ดังนั้น ตนขอให้รัฐบาลทำ 2 อย่าง 1.หยุดคุกคามประชาชน 2.ยุบสภา เพราะการบริการงานไม่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ พวกตนยังต้องมารับมรดกบาป คือรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เอื้อการสืบทอดอำนาจ ดังนั้น อย่างที่ 3 ที่ต้องทำคือแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนอย่างแท้จริง

Advertisement

ต่อมา เวลา 19.00 น. นางสาวจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษา แห่งประเทศไทย (สนท.) ประกาศให้มวลชนเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือส่องไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่า ประชาธิปไตยขณะนี้มืดมิด จากนั้นมวลชนตะโกน ประยุทธ์ออกไปอย่างกึกก้อง จากนั้นกลุ่มนักศึกษาประกาศบนเวทีว่า คืนนี้จะนอนเฝ้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพราะเกรงประชาธิปไตยหายจากประเทศ

เวลา 19.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบนนนราชดำเนินกลาง ซี่งถูกปิดการจราจร โดยมีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมอย่างต่อเนื่อง พื้นที่บริเวณแยกไฟแดงของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการนำภาพบุคคลที่ถูกบังคับสูญหายมาวางเรียงบนพื้นถนน อาทิ หะยีสุหลง โต๊ะมีนา, พอละจี รักจงเจริญ, วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ และสมชาย นีละไพจิตร เป็นต้น โดยเป็นจุดที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก

ทั้งนี้ ในช่วงเย็นที่ผ่านมา มีการประกาศบนเวทีปราศรัยถึงตัวเลขผู้ชุมนุมจากการคำนวณพื้นที่ 2,650 ตารางเมตร ว่ามีผู้เข้าร่วม 2,367 คน อย่างไรก็ตาม หลังการประกาศดังกล่าว ยังมีผู้เข้าร่วมเพิ่มเติมมากขึ้นเรื่อยๆ จนช่วงค่ำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image