เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มเยาวชนปลดแอก จัดกิจกรรม “ไม่ทนอีกต่อไป” เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนยังคงปักหลักอยู่ที่ถนนราชดำเนินอย่างคับคั่ง บางส่วนนำเสื่อและที่รองนั่งมาปูนอนฟังการปราศรัย
เวลา 22.55 น.โดยประมาณ มีการปราศรัยเกี่ยวกับชาวฟิลิปปินส์โค่นเผด็จการ ด้วยการรวมตัวทั้งใต้ดินและบนดิน โดยระบุว่า คนทุกสาขาอาชีพมาพูดคุยกันว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร หลังจากนั้น มีการรวมตัวกันเพื่อโค่นเผด็จการที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ซึ่งมีการลอบสังหารนายเบนิโญ่ อากีโน หัวหน้าฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล วินาทีแรกที่ออกจากเครื่องบินถูกยิงตายคาที่ มวลชนฟิลิปปินส์ไม่ยอม จากนั้นมีการจัดเลือกตั้งที่โกงอย่างมาก เหมือนของไทย ประชาชนก็บอกว่าไม่ทนแล้ว
หลังรวมตัวนับ 10 ปี มีขบวนการออกมาบนถนน เรียกว่า การปฏิวัติเอสซา (Essa Revolution) หลังชุมนุมได้ 3 วัน มาคอร์สสั่งสลายการชุมนุม แต่กองกำลังทหารไม่เอาด้วย ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือทำให้ขบวนการของเราเติบโตขึ้น ขยับขยายต่อไป การต่อสู้ใช้เวลา เพราะสู้กับสิ่งที่ใหญ่กว่าตัวเรา แต่เรามีคนที่เชื่อว่า สุดท้ายแล้วประเทศนี้ต้องมีประชาธิปไตย มีเสรีภาพ ไม่มีเผด็จการมาขัดขวางประชาธิปไตย หลังวันนี้ เชื่อว่าคนจะออกมามากขึ้น ต้องพยายามให้คนรอบตัวเชื่อว่า ใครจะยิ่งใหญ่มาจากไหน ก็ต้องฟังประชาชนเจ้าของประเทศ
ทั้งนี้ เวลา 23.30 น. ตัวแทนกลุ่มเยาวชนปลดแอกกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ ขอบคุณผู้ร่วมชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาดูแลความปลอดภัย ก่อนประกาศยุติกิจกรรมหลักด้านการปราศรัย โดยช่วงเวลาถัดจากนี้จะมีการเล่นดนตรีและอ่านบทกวี ก่อนแยกย้ายพักผ่อนตามอัธยาศัย สำหรับอาหารและน้ำดื่มส่วนหนึ่งจะมีการนำไปแจกคนไร้บ้าน และร่วมกันเก็บขยะ เพื่อความสะอาดเรียบร้อย
เวลา 00.00 น. นางสาวจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธาน สนท. กล่าวว่า วันนี้มีชายชุดดำ หัวเกรียน พยายามนำผ้าสีดำมาปิดกล้องวงจรปิด ทำให้ประชาชนที่อยู่ในที่ชุมนุมตะโกนส่งเสียงแสดงความไม่พอใจอย่างมาก
