ด่วน! ศบค.ชุดใหญ่ เคาะต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก เป็นครั้งที่ 5 ถึงวันที่ 31 ส.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ก.ค.) ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน มีมติต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่จะครบกำหนดในวันที่ 31 ก.ค. 2563 นี้ หรือไปสิ้นสุดในวันที่ 31 สิงหาคม 2563
ทั้งนี้ มติครั้งนี้ถือเป็นการต่ออายุครั้งที่ 5 โดย ศบค. ให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการแก้ปัญหาและป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด ได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการพิจารณาต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของนักศึกษา โดยระบุว่า ตนเคยพูดมาหลายครั้งแล้ว เพราะหลายกฎหมายไม่ครอบคลุม ไม่ได้ใช้กฎหมายมายุ่งเกี่ยวเรื่องการชุมนุมอะไรทั้งสิ้น เป็นเรื่อง พ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะ ก็มีอยู่แล้ว ตนไม่ต้องไปสั่งการเพิ่มเติม
นายกฯ ระบุว่า ตนเป็นห่วงกังวลเรื่องเดียวที่มีการเคลื่อนไหว สั่งเพียงอย่างเดียวขอให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เห็นใจในบรรดาเด็กๆ ของพวกเรา เยาวชน นิสิต นึกศึกษา และมีความเป็นห่วงแทนผู้ปกครองด้วยเท่านั้นเอง แต่ต้องระวังละเมิดก้าวล่วง คิดว่าประชาชนคงไม่ยอมนักหรอกให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ไม่สมควรจะเกิดในประเทศไทยของเรา จะไม่พูดมากในเรื่องเหล่านี้ ไม่ต้องการให้เป็นประเด็น ส่วนข้อเรียกร้อง 3 ข้อไปเสนอกันในสภา มีคณะกรรมาธิการอยู่แล้ว
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีเสียงคัดจากภาคประชาสังคมและฝ่ายค้านถึงความจำเป็นและเหมาะสม
สำหรับแนวทางที่เสนอให้ประกาศใช้บางพื้นที่นั้น นายวิษณุระบุว่า ประเด็นดังกล่าวพิจารณาตั้งแต่ครั้งแรกของการประชุม ศบค. แล้ว แต่เกิดข้อกังวลว่า คนจะเคลื่อนย้าย ไปในพื้นที่ที่ไม่ได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
รองนายกฯ ยังได้ตอบคำถามถึงประเด็นว่าอาจพิจารณายกเว้นเรื่องการห้ามชุมนุมด้วยหรือไม่ว่า โรคติดต่อไม่เหมือนกับการชุมนม ไม่เหมือนกับการก่อเหตุ ความไม่สงบเมื่อปี 57-58 เพราะเหตุดังกล่าวสามารถกระชับพื้นที่ได้ แต่โรคโควิด-19 ติดต่อไปทางอากาศ เราไม่สามารถกระชับพื้นที่ได้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็น ต้องประกาศทั่วประเทศ เพียงแต่ไม่เอามาตรการต่างๆ มาใช้ เพราะมาตรการที่มีอยู่ 6 มาตรการก็ยกเลิก
นายวิษณุ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ได้ประโยชน์จากการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน คือ การสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่มีกฎหมายใดให้สนธิกำลังแบบนี้ได้ เพราะ พ.ร.บ.โรคติดต่อนั้นแพทย์เป็นผู้ใช้ ซึ่งไม่สามารถสั่งการหน่วยงานอื่น เช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และหากใช้ พ.ร.บ. โรคติดต่อ ประเทศไทยมี 77 จังหวัด ก็จะมี 77 มาตรฐาน ด่านเข้าออกและด่านผ่อนปรน 70 ด่าน ซึ่งก็จะมี 70 มาตรฐาน และนายกรัฐมนตรีก็ไม่สามารถลงไปสั่งงานละเอียดในแต่ละด่านได้