วิกฤตในโรงเรียน
นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ กพฐ.เผยหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ.ว่า แนวช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1 ในปีการศึกษา 2563 ได้เน้นย้ำ การบริหารโครงการอาหารกลางวัน การล่วงละเมิดทางเพศ การลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ และยาเสพติด โดยขอให้หน่วยงานสื่อสารให้ชัดเจนว่า จะไม่ยอมให้เกิดทุจริตเงินอาหารกลางวันเด็ก การล่วงละเมิดทางเพศที่ยังเกิดขึ้นอยู่ สพฐ.มีความไม่สบายใจ หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ขอให้ดูแลอย่างใกล้ชิด พิจารณาตามกระบวนการอย่างเด็ดขาด ทั้งทางวินัยและทางอาญา ต้องไม่ให้เด็กได้รับผลกระทบทางจิตใจ
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวว่า ช่วงเปิดเทอมใหม่ การทำโทษด้วยการตีเด็ก หรือทำร้ายเด็กลดน้อยลง ที่พบเพิ่มขึ้น คือการบูลลี่ คือการกระทำที่กระทบต่อจิตใจของเด็ก เช่น ตัดผมนักเรียน ซึ่งได้ให้นโยบาย ให้โรงเรียนจัดทำระเบียบทรงผมให้สอดคล้องกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 รวมถึงให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องปัญหายาเสพติด สพฐ.ได้กำชับให้ผู้บริหารโรงเรียนสอดส่องดูแล ดูพฤติกรรมครู เปิดเทอมกว่า 22 วันที่ผ่านมา โรงเรียนและเขตพื้นที่ฯ แต่ละแห่งทำได้ดีมาก มีความเข้มข้น และมีการเคร่งครัดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด มีการเว้นระยะห่าง วัดอุณหภูมิ ให้เด็กสวมหน้ากากอนามัย อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ ซึ่งอยากให้โรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดภัย แต่เด็กก็อาจไปติดได้จากที่อื่น ดังนั้นทางภาคสังคมก็ต้องให้ความร่วมมือ
สภาพของนักเรียน นักศึกษา ล่าสุดถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะคนรุ่นใหม่ เรียนรู้เร็ว ทำให้เกิดช่องว่างกับครูอาจารย์ที่เรียนรู้ช้า มีกรอบความคิดตายตัว หากครูไม่สามารถทำให้ตนเอง เป็นที่พึ่งแก่เด็กได้ ใช้อำนาจลงโทษเด็กโดยไม่รับฟังเหตุผล ช่องว่างนี้ จะขยายตัวออกไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ ปัญหาทางการเมืองในปัจจุบัน ทำให้เด็กสนใจอยากมีส่วนร่วม อยากแสดงออก จนเกิดการชุมนุมทางการเมือง โรงเรียนจะต้องใจเย็น รับฟัง ไม่ใช้อำนาจ มิฉะนั้นจากช่องว่าง อาจกลายเป็นวิกฤตของการเมืองโรงเรียนขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้
