‘บิ๊กเต่า’ไม่หวั่น! สั่งล้มโปรเจ็กต์ทุ่ม 300ล้าน ศึกษาใช้งานคลองด่าน ยุค’บิ๊กหนุ่ย’

“บิ๊กเต่า”ล้มโปรเจ็กต์ 300 ล.ศึกษาใช้งาน “คลองด่าน” ยุค“บิ๊กหนุ่ย” ระบุให้ใช้ 30 ล.ก็พอเพราะเคยมีผลการศึกษาไว้แล้ว ชี้โครงการกลายเป็นเศษเหล็กคิดหนักนำกลับมาใช้

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการในกรณีโครงการระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการ ภายหลัง ครม.มีมติให้ กระทรวงทรัพยากรฯ ชำระค่าเสียหายให้แก่กิจการร่วมค้าเอ็นพีวีเอสเคจี เป็นเงินเกือบ 1 หมื่นล้านบาท รวมทั้งศึกษาหาแนวทางที่เหมาะสมเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ต่อ ว่า ในเรื่องคลองด่านยังต้องรอการพิจารณาคดีของศาลฎีกาในคดีอาญา และการดำเนินการหาผู้รับผิดชอบในคดีละเมิดเพื่อเรียกค่าเสียหายคืนให้กับรัฐ ทั้งนี้ในเรื่องการจ่ายเงินค่าเสียหายให้กับกิจการร่วมค้าฯ ก็เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครอง

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องการศึกษาหาแนวทางในการใช้ประโยชน์โครงการระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ที่ ครม.มีมติให้องค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) และกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ไปร่วมกันดำเนินการนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษาโดยใช้งบประมาณประจำปีของ อจน. 30 ล้านบาทในการดำเนินการ ซึ่งน่าจะพอเพียง เพราะมีการศึกษามาโดยตลอด

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้กระทรวงทรัพยากรฯ เคยมีการเสนอแปรญัตติงบประมาณผูกพันปี 2559-2560 กว่า 300 ล้านบาท เพื่อมาใช้ในการศึกษาการใช้ประโยชน์โครงการระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่านตามความต้องการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า การจะนำงบประมาณ 300 ล้านบาทมาใช้ดำเนินการเรื่องนี้ เป็นค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป และที่ผ่านมาก็มีผลการศึกษาส่วนหนึ่งจาก คพ. อยู่แล้ว ซึ่งต้องนำผลการศึกษานี้มาพิจารณาด้วย ทั้งนี้การกลับไปใช้ประโยชน์จากโครงการระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน เป็นเรื่องที่ต้องคิดหนัก เพราะไม่เคยมีการใช้งานมาเป็นเวลากว่า 10 ปี เครื่องมือ อุปกรณ์บางอย่างก็กลายเป็นเศษเหล็ก เทคโนโลยีต่างๆ ก็ไม่ทันสมัยไปแล้ว หากจะใช้ต้องมีการลงทุนเพิ่มซึ่งจะเกิดความคุ้มค่าหรือไม่ อีกทั้งยังมีปัญหาในเรื่องที่ดินของโครงการตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ซึ่งเรายังต้องรอคำตัดสินของศาลฎีกาอีก อย่างไรก็ตามตนมองว่าระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ จ.สมุทรปราการยังมีความจำเป็น แต่อาจจะต้องทำเป็นจุดย่อยๆ ในพื้นที่ที่มีปัญหา แทนที่จะเป็นระบบบำบัดรวมแบบคลองด่าน เพราะเราคงไม่สามารถปล่อยให้มีน้ำเสียถูกปล่อยลงทะเลได้อีกต่อไป ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ กำลังศึกษาอยู่

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เป็นรมว.ทรัพยากรฯ กระทรวงทรัพยากรฯได้มีคำสั่งให้ อจน. ไปแปรงบประมาณจากงบประมาณไม่จำเป็นเร่งด่วนมาใช้ศึกษาการใช้ประโยชน์โครงการระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จำนวน 30 ล้านบาท นอกจากนี้กระทรวงทรัพยากรฯ ยังมีการแปรญัตติงบประมาณสำหรับทำโครงการประเมินศักยภาพทางเทคนิคและการยอมรับของประชาชน ในโครงการระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียในเขตควบคุมมลพิษ จ.สมุทรปราการ หรือโครงการระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ระยะที่ 2 จำนวน 285 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณแบบผูกพัน 2 ปี คือ ในปี 2559 จำนวน 57 ล้านบาท และปี 2560 อีก 228 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่าเป็นโครงการที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งโครงการดังกล่าวถูกคัดค้านจากภาคประชาชนที่ติดตามกรณีคลองด่านอย่างมาก เนื่องจากเป็นการใช้จ่ายงบประมาณอย่างสิ้นเปลืองและเคยมีผลการศึกษาไว้แล้ว แต่ไม่มีการนำผลการศึกษาดังกล่าวมาปรับใช้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image