“ก้าวไกล” จี้ สตช.-อัยการ ตั้งโต๊ะแถลงให้ชัด ทำไมไม่ฟ้อง “บอส อยู่วิทยา”

“ก้าวไกล” จี้ สตช.-อัยการ ตั้งโต๊ะแถลงให้ชัด ทำไมไม่ฟ้อง “บอส อยู่วิทยา” ถาม หรือคุกมีไว้ขังคนจน ย้ำหลักฐานชัด ฝากถึงผู้ต้องหา รวยแล้วต้องมีควาาละอายใจ-รับผิดชอบต่อสังคมด้วย

เมื่อเวลา 13.55 น. วันที่ 24 กรกฎาคม ที่รัฐสภา พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธุ์ นายจิราวัฒน์ อรัญกานนท์ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ร่วมกันแถลงกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ขับรถชนตำรวจสน.ทองหล่อเสียชีวิต เมื่อปี 2555 พ้นทุกข้อกล่าวหา โดยพล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ในส่วนของคดีจะไม่ขอก้าวล่วง แต่กระบวนการสอบสวนก็ดี การทำสำนวนของคดีก็ดีสะท้อนว่าต้องมีการปฏิรูปตำรวจครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการปฏิรูปกระบวนการสอบสวน โดยตำรวจต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือ ไปจนถึงองค์ความรู้ต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยสนับสนุนเงินให้ตำรวจจัดซื้อเครื่องมือเหล่านี้เลย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลทำอะไรอยู่ ถ้ายังปล่อยให้ทิ้งร้างค้างคาก็จะกลายเป็นเหมือนคดีดังกล่าว ที่ใช้เวลากว่า 8 ปีในการดำเนินการ และเป็นบ่อเกิดแห่งความอยุติธรรม ตนมองว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ต้องเป็นองค์กรที่มีองค์ความรู้ครอบคลุม และมีเครื่องมือที่ทันสมัยในการสอบสวน

ด้านนาย พ.ต.ต.ชวลิต กล่าวว่า ตนในฐานะที่เป็นทำรูปคดีนี้เอง ทั้งจดบันทึก และถ่ายภาพพยานหลักฐานต่างๆเองกับมือ วันนี้ที่มีการสั่งไม่ฟ้อง รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เพราะจากการเก็บหลักฐานสามารถยืนยันได้ว่านายวรยุทธ ผู้ต้องหา เป็นผู้ขับรถชนจริงๆ ทั้งเป็นการชนท้ายตรงๆไม่ใช่การปาดหน้า ตนจำได้ว่าคดีเกิดในข่วงเวลาเช้ามืด โดยพบว่ารถคันที่เกิดเหตุจอดอยู่ในบ้านผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหากลับส่งคนรับใช้ในมามอบตัวจนทำให้มีการล้อมจับในเวลาต่อมา ในที่สุดผู้ต้องหาต้องออกมามอบตัว เจ้าหน้าที่พบร่องรอยที่ยืนยันได้ชัดบนตัวผู้ต้องหาว่าประสบอุบัติเหตุ คือ มีรอยจ้ำแดงๆจากการรัดเข็มขัด ส่วนเรื่องความเร็วในการขับตนก็เป็นผู้ดูกล้องวงจรปิด และคำนวนออกมาเอง พบว่ามีการขับขี่ที่เร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทำรายงานออกมาภายใน 1 เดือน แต่กระบวนการสอบสวนกลับยืดเยื้อออกไปหลายปี ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง และสมควรปฏิรูป

ด้านนายจิรวัฒน์ กล่าวถึงความรู้สึกของและการตั้งคำถามของสังคมไทยในตอนนี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับดาบตำรวจวิเชียร สะท้อนว่าความยุติธรรมแม้แต่จะเอื้อมไปสู่ศาลยุติธรรมก็ยังทำไม่ได้ สังคมไทยต้องรอให้CNNออกข่าวก่อนหรืออย่างไร ขณะที่บ้านเราข่าวสารเงียบกริบ วันนี้สตช.ต้องออกมาแถลงข่าวให้ชัดเจน แม้สตง.จะตั้งกรรมการสอบบวินัยตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการทำคดีนี้ เพื่อส่งไปยังป.ป.ช. แต่ป.ป.ช.กลับระบุว่าไม่ได้ผิดวินัยร้ายแรง ทั้งที่ไม่มีการนำการคำนวนความเร็วของการขับขี่บรรจุไว้ในสำนวน เรื่องของแอลกอฮอล์ก็ยังไม่รู้ว่าเมาแล้วขับหรือไม่ ทั้งที่สิ่งเหล่านี้คือมูลเหตุแห่งการฟ้องร้อง ดังนั้น หากมีคดีรูปแบบนี้เกิดขึ้นกับลูกหลานของเราบ้าง จะมีการวางแผนหรือไม่ว่าให้ดำเนินการไปเลย เพราะสุดท้ายก็ไม่ผิดวินัยร้ายแรง เพราะฉะนั้น อัยการและตำรวจที่เป็นต้นทางแห่งกระบวนการยุติธรรมต้องออกมาชี้แจง โดยฉะเพราะอัยการที่ปล่อยให้ผู้ต้องหาเลื่อนนัดพบได้ถึง 7 ครั้ง รวมระยะเวลากว่า 1 ปี ว่าเหตุใดจึงไม่ส่งฟ้องและยอมให้เลื่อนนัดถึง 7 ครั้ง

“ผมในฐานะส.ส.ตัวแทนประชาชน ขอถามว่าคุกมีไว้ขังคนจนใช่ไหม ตนอยากฝากบอกนายวรยุทธว่า รวยแล้วต้องมีความละอายใจต่อสังคมบ้าง และรวยแล้วต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย การเยียวยาภรรยาผู้เสียชีวิต แม้เขาจะเป็นเพียงนายดาบแต่ชีวิตเขาก็มีค่าเท่ากับนายวรยุทธ” นายจิรวัฒน์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image