คนโคราชจะไม่ทน นับพันพรึบลานย่าโม จี้ยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 24 กรกฎาคม ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) นครราชสีมา สถานที่จัดกิจกรรม “โคราชจะไม่ทน” ซึ่งเป็นกลุ่มแนวร่วมนิสิต นักเรียน นักศึกษาและประชาชนปลดแอกและไม่เอารัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยนัดหมายผ่านเฟซบุ๊กและกลุ่มไลน์ พบเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงทั้งในและนอกเครื่องแบบสนธิกำลังดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยนับ 200 นาย โดยตั้งด่านตรวจค้นยานพาหนะที่เส้นทางหลัก และรอบลานย่าโมได้นำแผงเหล็กมาวางกั้นและกำหนดทางเข้าออกด้านทิศเหนือ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชาย-หญิง ยืนคัดกรองบุคคลทั้งตรวจค้นอาวุธและวัดอุณหภูมิร่างกาย รวมทั้งให้สวมหน้ากากอนามัยทุกคน
ก่อนเริ่มงาน กลุ่มแกนนำ Korat No เผด็จการ ได้กางเต็นท์ เก้าอี้ จัดเตรียมสถานที่เอาไว้รองรับผู้มาร่วมชุมนุม ซึ่งมีกลุ่มนักเรียน นักศึกษา คนรุ่นใหม่และประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา เดินทางมาเข้าร่วมทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์กว่า 1,000 คน โดยกลุ่มแกนนำได้ขับกล่อมด้วยการเล่นเพลงแนวเพื่อชีวิต จากนั้น ประชาชน คนรุ่นใหม่ ได้ทยอยเดินทางมาร่วมกิจกรรมจนเต็มพื้นที่ลานย่าโม ส่งเสียง “ประยุทธ์ ออกไป” “เผด็จการ ออกไป” “เผด็จการ จงพินาศ” “ประชาธิปไตย จงเจริญ” เพื่อสร้างความฮึกเหิม และปราศรัยยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ 1.หยุดใช้สถาบันโจมตีนักศึกษา 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญ 3.ยุบสภา 4.หยุดคุกคามประชาชน รวมทั้งให้สังคมเข้าใจกิจกรรม
นายปฏิภาญ สมภารเพียร นักศึกษาจาก ม.ราชภัฏนครราชสีมา และนักศึกษาจาก ม.เทคโนโลยีสุรนารี, ม.เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตนครราชสีมา และนักเรียนมัธยมจาก ร.ร.ราชสีมาวิทยาลัย และ ร.ร.สุรนารีวิทยา แกนนำได้แจกกระดาษโปสเตอร์ปากกาให้กับผู้เข้าร่วมชุมนุมกว่า 1,000 คน ได้เขียนแสดงเจตนารมณ์ ก่อนจะเริ่มชูป้ายข้อความพร้อมกัน และยังได้นำเสื้อและพวงกุญแจที่มีรูปการ์ตูนสัญลักษณ์ “วิ่งไล่ลุง” มาจำหน่ายในราคาพิเศษ แถมเจลล้างมือ หารายได้จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ด้วย
ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมต้านเผด็จการในนามกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “กลุ่มนิสิต นักศึกษา เยาวชนคนโคราช เพื่อประชาธิปไตย” ได้ชูป้ายไวนิลแถลงการณ์ข้อเรียกร้อง 4 ประการไปถึงรัฐบาล “ให้หยุดใช้สถาบันโจมตีนักศึกษา, ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่, ให้ยุบสภา และให้หยุดคุกคามประชาชน” ซึ่งมีตัวแทนสลับกันขึ้นไฮด์ปาร์ก ผลัดเปลี่ยนกันปราศรัยโจมตีรัฐบาลระบุไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศชาติได้ และทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ เรียกร้องประชาธิปไตยกลับคืนสู่ประชาชน และพร้อมใจกันชูมือแสดงสัญลักษณ์ เปิดเเฟลชมือถือและร่วมกันแสดงพลัง โดยปฏิเสธว่าไม่มีพรรคการเมืองใดหนุนหลังจนถึงเวลา 21.00 น. จึงสลายตัว
