วันนอร์ ชี้ความมั่นคงภายในเป็นรากฐานและหัวใจของชาติ ความยุติธรรมนำชาติมั่นคง

วันนอร์ ชี้ความมั่นคงภายในเป็นรากฐานและหัวใจของชาติ ความยุติธรรมนำชาติมั่นคง

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ชาติที่มีความมั่นคงนั้น…

โดยทั่วไปเราอาจจะคิดถึงบรรดาสรรพกำลัง อาวุธยุทโธปกรณ์ หรือบรรดาเหล่าทหารนายกอง ที่รู้สึกไปว่าหากมีเยอะชาติจะมั่นคงขึ้นเท่านั้น
.
คนที่ฝังแนวคิดเช่นนี้มักจะนิยมสะสม เพราะรู้สึกว่าการได้มาซึ่งสิ่งดังกล่าวนั้นเป็นวิธีที่ดำรงให้ชาติมีความมั่นคงขึ้น เป็นเรื่องดี และก็มุ่งหมายให้สะสมอาวุธหรือสะสมกำลังที่ถืออาวุธให้เยอะไว้ เพราะฐานความเข้าใจคือ “ความมั่นคงของชาติ = กำลัง+อาวุธ ที่ชาติถือครองอยู่”
.
ซึ่งแนวคิดแบบนี้ ก็ไม่ได้ผิดอะไร สามารถคิดได้ ถามว่าเป็นความคิดที่ทันสมัยไหม ตรงนี้มีข้อถกเถียงเยอะ แต่หากขยายความไปในยุคปัจจุบัน ก็คงจะพูดอธิบายได้ว่านั้นคือ “ความมั่นคงภายนอก” ที่ดูนับตัวเลขกองกำลัง จำนวนอาวุธ หรือฟังก์ชั่นการใช้งานของอาวุธใหม่ๆ ไว้ข่มขวัญหรือสร้างกำลังใจให้ตนเอง
.
แต่กี่มากน้อยแล้ว ที่พิสูจน์ว่า “ขนาดกองทัพ” ไม่ได้เป็นปัจจัยต่อความมั่นคงของชาติที่สำคัญอะไรขนาดนั้น
.
“ความมั่นคงภายใน” ต่างหาก ที่เป็นรากฐานและหัวใจของชาติ บางท่านอาจจะมองเรื่องความมั่นคงภายในเป็นเรื่องกิจการในทางลับ แต่ที่จะนำเสนอคือเรื่องพื้นฐานของสังคม ทั้งในเรื่องความสามัคคี วินัย ความเป็นอยู่กินดีของประชาชน แต่อย่างไรก็ดี ทั้งหมดทั้งมวลนี้ มีหมุดขมวดไว้ทั้งสิ้นไว้ด้วย “ความยุติธรรม”
.
สิ่งที่พวกเราหลายคนเริ่มพูดในประเด็นอ่อนไหวของชาติไทยเรากันมากขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้นั้นล้วนเกี่ยวเนื่องกับ “ความยุติธรรม” ซึ่งมันแสดงออกมาเป็น “ความเหลื่อมล้ำ” กัน ประเทศไทยถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำในอันดับต้นๆ ของโลก ก็คิดเอาดูว่าเมื่อเกิดความเหลื่อมล้ำที่ถ่างออกไปกว้างขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาสังคมจะถูกสะสมกันเพียงใด
.
ความเหลื่อมล้ำนี้อย่ามองเป็นแค่เรื่องทรัพย์สินนะครับ มันเกี่ยวกันไปด้วยโครงสร้างอำนาจ โอกาสที่แต่ละคนที่อยู่ในประเทศเดียวกัน แต่เข้าถึงยากง่ายต่างกัน หรือบางคนอาจไม่สามารถเข้าถึงได้เลย ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องพื้นฐานของการเป็นอยู่ประจำวัน
.
เมื่อโครงสร้างอำนาจถูกบีบให้ออกแบบรับใช้ “ผู้คนบางกลุ่ม” ก็จะยิ่งสร้างความ “อยุติธรรม” ให้คนหลายกลุ่มเป็นธรรมดา และมันจะยิ่งน่ากลัวถ้าคนหลายกลุ่มที่ว่ากลายเป็น “ประชาชน”
.
และจะยิ่งน่าเจ็บช้ำใจยิ่ง หากความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นอย่างดาษดื่นนั้นเป็นเรื่องของ “กระบวนการยุติธรรม” ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และอย่าหวังไปถึงปลายน้ำ เพราะมันถูกตั้งธง “อยุติธรรม” ไว้ตั้งแต่กระดุมเม็ดแรกแล้ว
.
และหากยังปล่อยให้มันเกิดขึ้นราวกับไม่ยี่หระต่อผลลัพธ์ ผมเกรงว่าปัญหาสังคมที่เรื้อรังยาวนาน ก็จะกำเริบอักเสบขึ้น กระทบไปยังสภาพเศรษฐกิจที่ของเรายังโซซัดโซเซ ลูกผีลูกคน
.
“ความมั่นคงภายในซึ่งความยุติธรรม” นี้มันคือความสำคัญลำดับต้นๆ ของชาติไทยเรานี้ เห็นทีจะต้องร่วมมือกันจริงจังสำหรับผู้คนที่อยากเห็นประเทศไทยที่ดีขึ้น อนาคตที่สงบสุข เพราะหากปล่อยให้ “ตัวเงิน” กำหนดความยุติธรรมในบ้านเมืองนี้ เห็นทีว่า “ตัวเงิน” นี้เองที่จะทำชาติฉิบหายเสียเอง
.
“ชาติใดไร้ความยุติธรรม กรรมของชาตินั้นย่อมไร้ความมั่นคง” เป็นเช่นนี้แลเห็นชัด
.
เปลี่ยนแนวคิดเสียที่ว่าอาวุธจะทำให้ชาติมั่นคงมากที่สุดมาเป็น “ความยุติธรรม” นำชาติมั่นคงที่สุดจะสร้างมาตรฐานของความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ชัดเจนมาก
.
เห็นข่าวช่วงนี้แล้วผมเป็นห่วงและขอเรียกร้องให้ “ความยุติธรรม” ของชาติเรานี้ มีคุณภาพมากกว่านี้นะครับ.
26 กรกฎาคม 2562
กรุงเทพมหานคร

ชาติที่มีความมั่นคงนั้น…
โดยทั่วไปเราอาจจะคิดถึงบรรดาสรรพกำลัง อาวุธยุทโธปกรณ์ หรือบรรดาเหล่าทหารนายกอง…

โพสต์โดย วันมูหะมัดนอร์ มะทา เมื่อ วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2020

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image