“จาตุรนต์” เตือนรัฐบาล “ประยุทธ์” จัดการ “ม็อบนักศึกษา” ยิ่งหมดความชอบธรรมเร็ว

“จาตุรนต์” เตือนรัฐบาล “ประยุทธ์” จัดการ “ม็อบนักศึกษา” ยิ่งหมดความชอบธรรมเร็ว

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นกรณีการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มนักศึกษาและเยาวชนที่เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน ว่า สถานการณ์ในขณะนี้ ทำให้การเคลื่อนไหวของเยาวชน นักเรียน นักศึกษา มีเหตุผลชอบธรรมมากยิ่งขึ้น และมีผู้เข้าร่วมสนับสนุนมากขึ้น ด้วยเหตุปัจจัยเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง และไม่สามารถฟื้นได้เร็ว ธุรกิจจำนวนมากล้มละลายหรือต้องปิดกิจการ คนตกงานนับสิบล้านคน แต่ไม่มีมาตรการและงบประมาณรองรับ ทำให้ยิ่งมองไม่เห็นอนาคต

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไม่สามารถหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของเยาวชน นักศึกษา และประชาชนได้ การข่มขู่คุกคาม ทั้งโดยการกระทำที่ผิดกฎหมายเสียเอง และการใช้กฎหมายตามอำเภอใจของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งการพยายามลดความน่าเชื่อถือของเยาวชน นักศึกษา ที่กำลังทำอยู่ นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังจะทำให้รัฐบาลหมดความชอบธรรมลงเร็วยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ข้อความดังกล่าวระบุว่า

“มองการเคลื่อนไหวของเยาวชนและคำเตือนถึงพลเอกประยุทธ์

Advertisement

การเคลื่อนไหวของเยาวชนนักเรียนนักศึกษาที่กำลังขยายตัวกว้างขวางและรวดเร็วในขณะนี้เป็นความต่อเนื่องจากสถานการณ์เมื่อปลายปีก่อน เมื่อเยาวชนนักเรียนนักศึกษาเห็นความล้มเหลวของระบบยุติธรรม ความล้มเหลวของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้ทำให้เยาวชนทั้งหลายเห็นว่าพวกตนไม่มีอนาคต ซ้ำเติมด้วยความเหลวแหลกของรัฐบาลที่เห็นได้จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา แต่การเคลื่อนไหวในขณะนั้นสะดุดหยุดลงเสียก่อนเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19

เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายมาจนถึงขั้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว การเคลื่อนไหวของเยาวชนนักเรียนนักศึกษาจึงเกิดขึ้นอีกระลอกหนึ่ง สถานการณ์ในขณะนี้ทำให้การเคลื่อนไหวของเยาวชน นักเรียนนักศึกษามีเหตุผลชอบธรรมมากยิ่งขึ้นไปอีกและผู้เข้าร่วมสนับสนุนมากขึ้น ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่างกล่าวคือเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรงและไม่สามารถฟื้นได้เร็ว ธุรกิจจำนวนมากล้มละลายหรือต้องปิดกิจการ คนตกงานนับสิบล้านซึ่งสังคมไทยไม่เคยเจอมาก่อนและไม่มีมาตรการและงบประมาณรองรับ นักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษาส่วนใหญ่จะไม่มีงานทำ ระบบการศึกษาไม่ตอบโจทย์ในการสร้างคนที่เหมาะสมสอดคล้องกับเศรษฐกิจแบบใหม่ที่ถูกเร่งรัดให้ต้องปรับตัวจากสภาวะนิวนอร์มอล ทำให้เยาวชนทั้งหลายยิ่งมองไม่เห็นอนาคต

ในขณะที่คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆเห็นว่ารัฐบาลปัจจุบันไม่สามารถแก้ปัญหาประเทศได้ ก็พอดีมาเกิดการแก่งแย่งอำนาจและผลประโยชน์กันในพรรคร่วมรัฐบาลที่ส่งผลกระทบต่อการปรับคณะรัฐมนตรีที่ยิ่งทำให้เห็นว่ารัฐบาลนี้จะไม่มีทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจสังคมของประเทศได้เลย

Advertisement

เรื่องที่ซ้ำเติมความรู้สึกของเยาวชนและประชาชนอย่างรุนแรงที่สุดเรื่องหนึ่งก็คือกรณีการสั่งไม่ฟ้องคดี “กระทิงแดง” ที่กำลังอื้อฉาว ตอกย้ำความไม่เท่าเทียม เลือกปฏิบัติและความล้มเหลวของระบบยุติธรรมของประเทศนี้ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

สภาพการณ์เหล่านี้ทำให้เกิดความรู้สึกกันโดยทั่วไปว่าไม่เพียงแต่เยาวชนเท่านั้นที่ไม่มีอนาคต แต่ประเทศทั้งประเทศยิ่งไม่มีอนาคต

ด้วยเหตุปัจจัยเหล่านี้การเคลื่อนไหวของเยาวชน นักเรียน นักศึกษาจึงขยายตัวอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว และมีแนวโน้มที่จะได้รับการสนับสนุนร่วมมือจากประชาชน หลากหลายวัยและสาขาอาชีพต่างๆมากขึ้นด้วย

พลเอกประยุทธ์กับพวกจะไม่สามารถหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของเยาวชนนักเรียนนักศึกษาและประชาชนได้ การข่มขู่คุกคามทั้งโดยการกระทำที่ผิดกฎหมายเสียเองและการใช้กฎหมายตามอำเภอใจของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งการพยายามลดความน่าเชื่อถือของเยาวชนนักศึกษาที่พลเอกประยุทธ์กับพวกกำลังทำอยู่ นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังจะทำให้รัฐบาลปัจจุบันหมดความชอบธรรมลงเร็วยิ่งขึ้นและเมื่อสภาพทางเศรษฐกิจสังคมและการเมืองของประเทศเสื่อมทรามลงไปทุกที คนส่วนใหญ่ก็จะยิ่งเห็นว่าปล่อยให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์บริหารประเทศต่อไปไม่ได้

แต่การเปลี่ยนรัฐบาลก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะกติกาต่างๆมีไว้เพื่อคุ้มครองพลเอกประยุทธ์กับพวก ซึ่งก็จะทำให้คนส่วนใหญ่เห็นว่าสิ่งที่เป็นปัญหายิ่งกว่ารัฐบาลประยุทธ์ก็คือระบบที่พลเอกประยุทธ์กับพวกร่วมกันสร้างไว้

การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

พลเอกประยุทธ์กับพวกดูจะตามสถานการณ์ไม่ทัน ยังใช้วิธีเก่าๆจัดการกับเยาวชนนักเรียนนักศึกษา ดูเบาและประเมินสถานการณ์ต่ำ อาจคิดว่ารัฐบาลของพวกตนอยู่มาได้ 6 ปีกว่าเพราะมีคนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงอะไรจะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายและเกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ แต่ขณะนี้คนที่คิดเช่นนั้นกำลังประสบความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจมากขึ้นทุกวัน ไม่เหลือสถานะและเหตุผลที่จะสนับสนุนปกป้องรัฐบาลนี้ต่อไปแล้ว

ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์มักเลียนแบบผู้นำเผด็จการในอดีต แต่อาจจะลืมไปว่าผู้นำเผด็จการบางรายต้องพบจุดจบอันอัปยศจากการที่สร้างความเสียหายแก่บ้านเมือง เป็นอุปสรรคขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของประเทศและปราบปรามประชาชน หากพลเอกประยุทธ์ไม่ปรับทัศนคติตนเองเสียใหม่ก็อาจพบจุดจบไปพร้อมกับการพังพินาศของระบบที่ตนเองสร้างขึ้น

สิ่งที่พลเอกประยุทธ์ควรทำโดยด่วนที่สุดคือ 1.สั่งให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งระบบหยุดคุกคามเยาวชน นักเรียนนักศึกษาและประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพโดยชอบธรรม และ 2.รีบหารือกับสมัครพรรคพวกทั้งหลาย ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล สมาชิกวุฒิสภาและเครือข่ายที่ร่วมกันสร้างและสนับสนุนค้ำจุนระบบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยมาจนทุกวันนี้ เพื่อหาทางออกให้กับประเทศด้วยการเปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยและคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการยุบสภาจะทำอย่างไร จะแก้บางมาตราก่อนแล้วยุบสภา แล้วค่อยแก้ทั้งฉบับหรือจะจัดให้มีสสร.มายกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่โดยเร็วก่อนที่จะยุบสภา หรือจะใช้วิธีอื่นก็ตาม เป็นเรื่องที่ควรจะเปิดหารือกันในวงกว้าง ให้เยาวชนนักเรียนนักศึกษาและประชาชนมีส่วนร่วม”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image