บทนำ : เสียง‘คนรุ่นใหม่’

เกิดการชุมนุมของเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนผู้ใฝ่หาประชาธิปไตย แพร่กระจายไปทั่วประเทศ และยืนยันข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก่ แก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภาเลือกตั้งใหม่อย่างเป็นธรรม และยุติการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือกำจัดทำลายฝ่ายที่เห็นต่าง ฝ่ายความมั่นคงอาจจะมองว่า ผู้ออกมาชุมนุม อยู่ภายใต้การชี้นำของพรรคการเมือง เป็นการ “จูงจมูกเด็ก” โดยพรรคการเมือง แต่เหตุการณ์จะคลี่คลายตัวเองออกมาในที่สุดว่า ข้อกล่าวหาของฝ่ายความมั่นคงเป็นจริงหรือไม่

สาเหตุของการชุมนุม ชัดเจนว่า เป็นการเรียกร้องประชาธิปไตย ความเป็นธรรม ที่สะท้อนออกในข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ระบอบการเมืองในปัจจุบัน แม้มีการเลือกตั้ง แต่กฎกติกา ถูกบิดเบือน ดีไซน์เพื่อบุคคลบางคนและบางฝ่าย ทำให้พรรคที่ได้เสียงข้างมากไม่ได้ตั้งรัฐบาล การเลือกตั้งท้องถิ่นถูกแช่แข็งไว้กว่า 6 ปีแล้ว ในเรื่องกฎหมายนั้น ทุกวันนี้เสียงวิพากษ์วิจารณ์การออกกฎหมาย การใช้กฎหมาย ดังกระหึ่มไม่เพียงในประเทศ แต่ระดับนานาชาติก็เป็นที่ทราบกัน

มีผู้รวบรวมข้อมูล ระบุว่า ในระยะ 4 ปีที่ผ่านมา หากไม่มีการรัฐประหาร คนไทยเราจะมีสิทธิหย่อนบัตรเลือกตั้งได้ 5 ครั้ง นั่นคือ เลือกตั้งทั่วไป, เลือกตั้งนายก อบจ., เลือกสภาจังหวัด, เลือกนายก อปท. และเลือกสภา อปท. โดยอ้างเหตุผลว่า ท้องถิ่นมีการทุจริตกันมาก แต่ตัวเลขที่มีการเปิดเผยออกมา กลับตรงกันข้าม งบประมาณถูกเก็บไว้ที่ส่วนกลาง ตัดทอนอำนาจการพัฒนาท้องถิ่นของประชาชน กลายเป็นรัฐราชการที่รวมศูนย์อำนาจไว้ที่ตนเอง ขาดศักยภาพและความรวดเร็วในการแก้ปัญหาให้ประชาชน

ผู้ถืออำนาจรัฐ ต้องตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อไป โดยมีทางตันที่สุ่มเสี่ยงรอคอยอยู่ เพราะสภาพเศรษฐกิจที่เสียหายจากการที่ประเทศมุ่งไปในทิศทางของการผูกขาดอำนาจ หรือจะปลดล็อก แก้รัฐธรรมนูญ คืนอำนาจให้ประชาชน จัดทำกติกาที่เป็นธรรม มีมาตรฐาน เลือกตั้งทุกระดับ ให้กลไกสังคมทุกมิติ เดินหน้าไปภายใต้หลักการที่ประชาชนเป็นศูนย์กลาง วิกฤตความไม่พอใจของคนรุ่นใหม่ บ่งบอกว่าประเทศกำลังเดินไปในเส้นทางที่พวกเขาไม่ได้มีส่วนกำหนด และไม่มั่นใจในอนาคต

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image