ศุภชัย สมเจริญ ชูธง กกต. สแกนโซน’แดง-เหลือง-เขียว’ ดึงคนใช้สิทธิ 80% อัพ

ศุภชัย สมเจริญ

หมายเหตุ – นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์พิเศษเกี่ยวกับความพร้อมการทำงานและแผนการรณรงค์การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2559

– เตรียมพร้อมประชามติไปถึงไหนแล้ว

การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในการเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาประเทศชาติ โดยในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2559 ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. จะเป็นวันที่ผู้มีสิทธิออกเสียงไปลงคะแนนออกเสียงร่างรัฐธรรมนูญ ขณะนี้สำนักงาน กกต.ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ องค์กรต่างๆ สถาบันศึกษา ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล (ศส.ปชต.) โครงการ รด.จิตอาสา ดีเจประชาธิปไตย สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เร่งดำเนินการสร้างความรู้ความเข้าใจกระบวนการและขั้นตอนการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแก่ประชาชน

นอกจากนี้ กกต.ยังเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่กระบวนการการออกเสียงประชามติทุกช่องทางผ่านสื่อบุคคล สื่อโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ สื่อออนไลน์ แผ่นปลิว แผ่นพับ สปอตโฆษณา เพลงรณรงค์การออกเสียงประชามติ

Advertisement

จากการไปตรวจเยี่ยมความพร้อมการทำงานของสำนักงาน กกต.จังหวัดต่างๆ ผมได้รับทราบและเห็นการทำงานของ กกต.ทุกจังหวัด มีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ เท่าที่ลงพื้นที่ไม่พบปัญหาหรืออุปสรรคใด เพราะทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ว่าราชการทุกจังหวัดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี กกต.จึงไม่มีความกังวลใดๆ อีกทั้งพนักงานของ กกต.ทั้งระดับผู้บริหารและพนักงานต่างก็มีความรู้ ความสามารถและมีความชำนาญในการจัดการเลือกตั้งทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น และการออกเสียงประชามติมาแล้วหลายครั้ง

ส่วนการแจกร่างรัฐธรรมนูญและคำอธิบายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ ประเด็นคำถามเพิ่มเติมพร้อมคำอธิบาย กกต.ได้จัดส่งเอกสารทั้งหมดกระจายไปยังสถานที่สำคัญๆ ครบถ้วนแล้วตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา ถ้าประชาชนคนใดสนใจที่จะอ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่จะลงประชามติก็สามารถไปหาอ่านได้ยังสถานที่ดังกล่าวได้ หรือสามารถใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนของตนเองเข้าไปที่แอพพลิเคชั่นฉลาดรู้ ประชามติ ซึ่ง กกต.จัดทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน

แอพพ์ตัวนี้มีเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ คำอธิบายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ เล่ม 1-2 ประเด็นคำถามเพิ่มเติมพร้อมคำอธิบาย รวมทั้งข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการทำประชามติ และเพื่อให้การรับรู้เนื้อหาสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด ทาง กกต.จึงมีมติว่าจ้างหนังสือพิมพ์จัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับด้วย

สำหรับจุลสารสรุปสาระสำคัญการออกเสียงประชามติ (Booklet) ขณะนี้ได้จัดส่งไปตามครัวเรือนต่างๆ จำนวน 17 ล้านครัวเรือนพร้อมกับหนังสือแจ้งเจ้าบ้านแล้ว นอกจากนี้ยังได้แจกจ่ายไปยังสถานที่ต่างๆ อีกหลายแห่ง เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นคำถามเพิ่มเติมพร้อมคำอธิบายได้อย่างดี

– เจ้าหน้าที่ กกต.มีความกดดันไหม ท่ามกลางความกดดัน

กกต.ได้เน้นย้ำและให้กำลังใจพนักงานตลอดมา โดยขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต มีความรัก ความสามัคคี ร่วมมือร่วมใจกันทำงานสำคัญครั้งนี้เพื่อให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ใช้จ่ายงบประมาณอย่างประหยัดและมีคุณภาพ รวมทั้งต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและระเบียบอย่างเคร่งครัดด้วย ถ้าเราปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตก็จะได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 55 วรรคสอง ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 แต่ถ้าทุจริตต่อหน้าที่ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง และเมื่อเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแล้วจะต้องได้รับโทษหนักด้วย ขอยืนยันว่าการทำงานที่ผ่านมาของ กกต.เรายึดหลักสุจริต โปร่งใส เรายินดีให้ตรวจสอบได้ตลอดเวลา

– วางแผนและตั้งเป้าผู้มาใช้สิทธิอย่างไร

ผมได้แจ้งให้ กกต.แต่ละจังหวัดที่ไปตรวจเยี่ยมให้สำรวจตรวจสอบไปดูช่วงการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2557 ที่ผ่านมาว่าหมู่บ้านใด หน่วยเลือกตั้งใดมีประชาชนออกมาใช้สิทธิ โดยแยกตามสี คือ มาใช้สิทธิน้อยก็เป็นสีแดง ปานกลางก็เป็นสีเหลือง ถ้ามาใช้สิทธิมากก็เป็นสีเขียว จากนั้นให้พนักงานเร่งการประชาสัมพันธ์และรณรงค์เพื่อให้พื้นที่สีแดงยกระดับมาเป็นสีเหลืองหรือเป็นสีเขียว รวมทั้งยกระดับพื้นที่สีเหลืองให้เป็นสีเขียวและรักษาระดับของพื้นที่สีเขียวไม่ให้ตก ผ่านเครือข่ายของ กกต. อาทิ กรรมการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล (ศส.ปชต.) จำนวนกว่า 74,240 คนทั่วประเทศ พลเมืองอาสา รด.จิตอาสา ดีเจประชาธิปไตย ป้ายรณรงค์ แผ่นปลิว แผ่นพับ สื่อทุกช่องทาง เป็นต้น

– มีการวิจารณ์ว่ากกต.อ่อนประชาสัมพันธ์

ขอชี้แจงว่าการประชาสัมพันธ์และการรณรงค์การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ของ กกต.ไม่ได้อ่อนตามที่ปรากฏเป็นข่าวหรือมีการวิพากษ์วิจารณ์ เราค่อยๆ ดำเนินการไปทีละขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนด

ขณะนี้ตามจังหวัดต่างๆ ก็มีการติดป้ายประชาสัมพันธ์และรณรงค์ตามสถานที่ราชการและเอกชน โรงเรียน สถาบันการศึกษาก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

การประชาสัมพันธ์และรณรงค์ทาง กกต.ได้เน้นย้ำเสมอว่าอย่าไปชี้นำให้ผู้มีสิทธิไปออกเสียงในทางใดทางหนึ่งเด็ดขาด เพราะจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ

– กกต.ตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ 80 เปอร์เซ็นต์

ผมยังมั่นใจว่าจากเครือข่ายต่างๆ ที่มาช่วยสนับสนุน กกต.จะทำให้ยอดของผู้มาใช้สิทธิถึงเป้าหมายได้แน่นอน แต่ถ้าตัวเลขไม่ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ก็น่าจะใกล้เคียง ทั้งนี้ การที่ กกต.ตั้งเป้าหมายไว้สูงก็เพื่อเป็นการกดดันตัวเองและให้พนักงานทุกคนเร่งทำงานเพราะการออกเสียงประชามติไม่ได้มีบ่อยครั้ง นานๆ ถึงจะมีสักครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สอง เมื่อมีโอกาสทำประชามติแล้วก็ขอให้ร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ กกต.ชุดผมไม่รู้ว่าจะได้ทำประชามติครั้งที่สามหรือไม่ ดังนั้น การออกเสียงประชามติครั้งนี้ต้องทำให้ผู้มีสิทธิออกเสียงมาใช้สิทธิให้มากที่สุด เพราะร่างรัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายสูงสุด ซึ่งใช้ในการปกครองประเทศ จึงอยากให้ประชาชนทุกคนทั้งผู้มีสิทธิออกเสียงและผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง ได้ศึกษาทำความรู้และทำความเข้าใจในเนื้อหารายละเอียดของร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นคำถามเพิ่มเติมว่าเป็นอย่างไร และใช้ดุลพินิจตัดสินใจลงคะแนนด้วยความเป็นอิสระด้วยตนเอง

– คาดหวังกับการทำประชามติครั้งนี้อย่างไร จะมีเหตุการณ์ซ้ำวันเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 หรือไม่

การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่มีคู่ต่อสู้ทางการเมือง ไม่มีการแข่งขันเหมือนการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หรือการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพราะการลงคะแนนครั้งนี้เป็นการลงความเห็นและเป็นการตัดสินใจของผู้มีสิทธิออกเสียงว่าจะมีดุลพินิจอย่างไรกับร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นคำถามเพิ่มเติม ดังนั้น ผมจึงไม่มีความกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ใส่ร้ายป้ายสี ส่วนการเตรียมงานด้านต่างๆ ของ กกต.เรื่องใหญ่ๆ กกต.ได้ดำเนินการไปหมดแล้ว เหลือเพียงเก็บรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้น

– มองว่าบรรยากาศการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ จะมีผลต่อการจัดทำประชามติหรือไม่

ทุกคนไม่ว่าจะฝ่ายใดย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเผยแพร่ความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติได้ทั้งนั้น เพียงแต่การแสดงความเห็นต้องอยู่บนพื้นฐานโดยสุจริตและไม่ขัดต่อกฎหมาย อย่าบิดเบือน พูดเท็จ หยาบคาย ปลุกระดม ข่มขู่ ขอให้ยึดหลักตามประกาศ กกต.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความคิดเห็นในการออกเสียงประชามติ หากแสดงความคิดเห็นโดยชี้นำทางการเมืองเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไปออกเสียงในทางใดทางหนึ่งถือว่าเป็นความผิด ถ้าประชาชนพบเห็นการกระทำ

ที่เข้าข่ายลักษณะความผิดตามกฎหมายประชามติก็สามารถแจ้งความที่สถานีตำรวจได้โดยตรง แต่ต้องมีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ครบถ้วนด้วย หรือสามารถถ่ายภาพ อัดเสียง อัดคลิปวิดีโอ ส่งผ่านมายังแอพพลิเคชั่นตาสับปะรด ที่ กกต.จัดทำขึ้นเพื่อเป็นช่องทางหนึ่งให้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสผู้ทำผิดกฎหมายได้ หาก กกต.ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จแล้วก็จะส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

– ขอให้ช่วยเชิญชวนประชาชนให้ออกมาลงประชามติในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคมนี้

ก่อนที่ผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะมาใช้สิทธิ ผมอยากขอให้ผู้มีสิทธิออกเสียงทุกคนได้พิจารณาเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นคำถามเพิ่มเติมพร้อมคำอธิบายให้ถ่องแท้ หรือหากต้องการเข้าใจง่ายๆ ก็สามารถศึกษาจากจุลสารสรุปสาระสำคัญการออกเสียงประชามติ (Booklet) ที่ กกต.ได้แจกไปพร้อมกับหนังสือแจ้งเจ้าบ้าน เมื่อได้รับทราบข้อมูลที่เข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ขอให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไปใช้สิทธิออกเสียงอย่างเป็นอิสระ จะลงคะแนนเสียงอย่างไรก็เป็นสิทธิของแต่ละคน เพียงแต่ขอให้มาออกเสียงกันมากๆ เพราะรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสำคัญเป็นแม่แบบเป็นแม่บทของกฎหมายที่ใช้ในการปกครองประเทศและปกครองประชาชน

เมื่อเป็นกฎหมายสำคัญ ประชาชนทุกคนจึงต้องมีส่วนร่วม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image