เดินหน้าชน : ครม.=คนเรื่องมาก : โดย สัญญา รัตนสร้อย

ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สำรวจอากัปกิริยา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านสื่อมวลชน มักเห็นภาพสะท้อนอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส

เหมือนจะบอกเป็นนัยการปรับคณะรัฐมนตรีราบรื่น

จะเป็นลับ ลวง พราง เก็บอาการ หรือเรียบร้อยโรงเรียนนายร้อย จปร. ต้องติดตามกันต่อไป

แต่หากย้อนเข้าไปดูไส้ในพรรคพลังประชารัฐ แกนนำรัฐบาล “บิ๊กเนม” บางคนอย่าง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ที่จับจองสลับไปกระทรวงพลังงาน ดูเหมือนอาจต้องกลืนเลือด

Advertisement

ยอมเปิดทางให้ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” อดีตผู้บริหารในเครือ ปตท. เสียบเก้าอี้แทน

ยังไม่นับอีกบางเก้าอี้ที่มีกระแสเจียนไปเจียนอยู่ อย่าง พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดีอีเอส ที่ว่ากันว่าพลัง
เริ่มลดถอย

หรือแม้แต่ภายในพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่มีกำนัน สุเทพ เทือกสุบรรณ ยืนอยู่เบื้องหลัง ก็คล้ายจะไม่สามารถเกาะกุมที่นั่งเดิมในตำแหน่ง รมว.แรงงาน ที่เตรียมไว้ให้ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรค ต้องยอมปล่อยแลกสลับกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ไปให้ “บิ๊กเนม” ของ พปชร. อย่าง สุชาติ ชมกลิ่น ได้ชื่นชมแทน

Advertisement

กำนันสุเทพยืนยันมาโดยตลอด รมว.แรงงานต้องเป็นของรวมพลังประชาชาติไทย กระทั่งช่วงปลายสัปดาห์ก่อนจึงยอมออกตัวให้สัมภาษณ์นักข่าวด้วยตัวเองว่า นายกฯประยุทธ์โทรศัพท์มาหา เจรจาขอแลกโควต้า รมว.แรงงาน มาเป็นของพรรคพลังประชารัฐ โดยให้ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ไปเป็น รมว.อุดมศึกษาฯ ได้ตอบกับนายกฯว่ารวมพลังประชาชาติไทยก่อตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลืองานนายกฯให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ทั้งหมดให้ขึ้นอยู่กับนายกฯจะพิจารณาตามความเหมาะสม

หรือแม้แต่พรรคชาติไทยพัฒนาก็มีข่าวจะถูกขอคืนโควต้าในบางตำแหน่ง

ทั้งภายในพลังประชารัฐที่มีผู้ต้องการตำแหน่งแห่งหนมากล้นเกินเก้าอี้ ยิ่งต้องแบ่งโควต้าส่วนหนึ่งให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ก็ยิ่งน้อยลงไปอีก

หรือแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาล ในภาวะพรรคแกนนำและพรรคร่วมรัฐบาลสยบยอมกล่ำกลืนฝืน จึงคาดหมายถึงคลื่นใต้น้ำจากคนกันเองย่อมเกิดขึ้นได้ตลอด

ขณะเดียวกันเมื่อตรวจสอบกระแสสังคมจากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน หลายสำนักได้ผลลัพธ์
ค่อนข้างสอดคล้องกันถึงการปรับ ครม.ครั้งนี้ มุ่งคลี่คลายความไม่สะดวกทางการเมืองเป็นด้านหลัก มากกว่าให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาของส่วนใหญ่

ล่าสุด สวนดุสิตโพลก็ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ประชาชนได้อะไร จากการปรับ ครม.” ร้อยละ 48.70 มองว่า ประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์จากการปรับ ครม.ครั้งนี้ แต่คนที่ได้คือนักการเมือง

ร้อยละ 37.11 ไม่แน่ใจ ต้องรอดูว่ามีใครบ้าง

ร้อยละ 55.75 คิดว่าปรับ ครม.แล้วรัฐบาลก็ยังทำงานเหมือนเดิม

ร้อยละ 52.88 ยังมองว่าการปรับ ครม. จะทำให้ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลลดลงด้วย

มีเพียงร้อยละ 13.45 มองว่าการปรับ ครม.จะทำให้ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลเพิ่มขึ้น

และมีเพียงร้อยละ 14.19 ที่มองว่าประชาชนได้ประโยชน์จากการปรับ ครม.ครั้งนี้ เพราะรัฐบาลมีเสถียรภาพและบริหารงานได้ดีขึ้น ได้คนเก่งมีฝีมือเข้ามาทำงาน

ปัจจัยภายในพรรคร่วมรัฐบาล ปัจจัยภายนอกจากมุมมองของกระแสสังคมส่องเข้ามายังการปรับ ครม. จึงเพียงพอประเมินได้ว่าการเมืองในซีกรัฐบาล ภายหลัง “ประยุทธ์ 2/2” น่าจะทุลักทุเลไม่น้อย

และมีแนวโน้มจะหนักข้อยิ่งกว่าเมื่อก่อนปรับ ครม.

สัญญา รัตนสร้อย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image