บิ๊กตู่ ขอปชช.ร่วมมือ ยัน ไม่เคยเป็นเผด็จการ แนะรัฐวิสาหกิจปรับตัว ขู่ใครประท้วงเจอดี

บิ๊กตู่ ขอความร่วมมือประชาชน ยัน ไม่เคยเป็นเผด็จการ ไม่ต้องการสืบทอดอำนาจ แนะ CAT – TOT ปรับตัว หวั่นล่มสลาย ขู่ ประท้วงเจอดีแน่ ซัด หนังสือพิมพ์แย่ ตีรัฐบาลทุกเรื่อง สร้างความบิดเบือน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 กรกฎาคม ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดสถาบันพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลภาครัฐ และเปิดการอบรมหลักสูตรรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริหารระดับสูง (รอส.) รุ่นที่ 3 พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “นโยบายการเตรียมความพร้อมของบุคลากรภาครัฐเพื่อรองรับการก้าวไปสู่ Digital Thailand” โดยกล่าวตอนหนึ่ง ว่า ขอให้ทุกคนร่วมมือกันสร้างระบบใหม่ให้กับประเทศไทย ขอให้ไว้วางใจ และไว้เนื้อเชื่อใจเราบ้าง ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะกลับไปที่เดิม รัฐบาลเข้ามารื้อเกือบทุกเรื่อง ขณะที่บ้านเมืองยังมีความเห็นต่างอยู่มากมายหลายเรื่องทำอะไรก็ติดขึ้นไปหมด เพราะคนยังไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง หลายคนยังติดอยู่ที่เดิม หลายคนติดอยู่ที่ตัวเอง ติดที่องค์กร ติดที่ผลประโยชน์ สิ่งเหล่านี้ทำให้ประเทศไทยเดินหน้าไปไม่ได้ ดังนั้นเราจะกล่าวไปสู่การเป็นประเทศ 4.0 ไม่ได้เลย ยืนยันว่าไม่เคยเผด็จการกับใคร เว้นแต่พวกที่ไม่เคารพกฎหมาย 2 ปี ในการทำงานของรัฐบาล และคสช. มีการพัฒนาก้าวหน้า ทุกคนในรัฐบาลทำงานหนัก โดยเฉพาะกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งอยู่ระหว่างการเปลี่ยนชื่อกระทรวง รัฐมนตรีก็อาจจะตกงาน แต่ไม่ต้องห่วงต้องทำงานต่ออยู่แล้ว ส่วนจะทำอย่างไรค่อยว่ากัน เพราะหลายอย่างอยู่ในกระบวนการของรัฐธรรมนูญด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องอยู่เพื่อทำงานอย่างแน่นอน อย่าเพิ่งดีใจว่าจะไม่มีรัฐมนตรี หรือปรับเปลี่ยนตำแหน่งที่จะต้องปรับเปลี่ยนใหม่ สิ่งต่างๆ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จากนี้ไปทุกคนต้องช่วยกันคิดกันการเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่กำลังจะมาถึง ส่วนตัวไม่ได้ขัดแย้งกับประชาธิปไตย อย่าไปคิดว่าที่ทำทั้งหมดเพื่อเป็นการสืบทอดอำนาจกลไกที่มีอยู่ไม่สามารถไปละเมิดกลไกฝ่ายบริหารได้ อย่างนี้เรียกว่าเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ไม่อย่างนั้นคงเขียนแผนหนักกว่านี้ แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะโลกวันนี้เป็นประชาธิปไตย ตนไม่สามารถหลีกหนีพ้นประชาธิปไตยอยู่แล้ว ถึงเวลาก็ต้องทำ ตนก็มีหน้าที่เหมือนทุกคน 1 สิทธิ 1 เสียง เพราะฉะนั้นเราต้องทำทุกอย่างไปสู่เป้าหมายเดียวกัน แต่ในองค์กรเดียวกันบางครั้งก็ยังไปด้วยกันไม่ได้ วันนี้เข้ามาทำให้บ้านเมืองเดินได้ ไม่ได้ทำเพื่อใช้อำนาจบ้าบอคอแตกอะไร และไม่อยากได้อำนาจอะไรสักอย่าง พอแล้วอำนาจ ใครเป็นทหาร ผบ.ทบ.คงรู้อยู่แล้ว การเป็นผบ.ทบ. เบื่อที่จะใช้อำนาจอย่างเดียวมันเบื่อ แต่ถ้าใช้อำนาจแล้วได้ผลประโยชน์มันไม่เบื่อ

“ผมไม่รู้สืบทอดอำนาจไปทำไม อำนาจประชาชนสำคัญสุด และเป็นอำนาจที่ถูกต้อง อยากเห็นประเทศเดินหน้า ไม่ใช้อำนาจที่ไปขัดแย้ง ขอให้ทุกคนดูแลกันว่าจะทำอย่างไร ต้องมีช่องทางให้ประชาชนเรียนรู้ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร วันนี้หลายพวกเอาไปบิดเบือน ที่ปรับวันนี้เพื่อเอื้อประโยชน์ ผมถามว่าเอื้อใคร แล้วใครได้ รัฐบาลไม่เห็นได้อะไรเลย ขอสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันด้วย ฝากคิดทำระบบข้าราชการเข้มแข็ง ไม่ขัดแย้งกับฝ่ายบริหาร ที่มีคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล และมองประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก รวมถึงประชาชนต้องเรียนรู้ทันการพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน” นายกฯกล่าว

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เดินหน้าทำงานก็มีคนดึงแข้งดึงขา ทำให้ประเทศเดินหน้าไปช้า การเป็นไทยแลนด์ 4.0 ก็เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ โดยมี ยุทธศาสตร์เพิ่มเติม เช่น การเพิ่มขีดความสามารถประเทศให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของโลก การขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยดิจิตอล การปรับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ การพัฒนาหน่วยงานและบุคลากรของรัฐ และฝากไปถึง CAT TOT ด้วย ไม่เช่นนั้นเจ๊งหมด รัฐบาลช่วยไม่ได้ รัฐวิสาหกิจอย่ามาประท้วง ถ้าประท้วงมีเรื่องกันแน่ หัวหน้านั่นแหละตัวดี ไม่ได้ขู่แต่เอาจริง รัฐวิสาหกิจจะล้มละลายอยู่แล้ว ชาวต่างชาติมักคิดเรื่องความสร้างสรรค์ แต่คนไทยกลับคิดแต่เรื่องบ้าบอ เรื่องของการทะเลาะเบาะแว้ง การเมืองประชาธิปไตย วนอยู่แค่นั้น จะอดตายก็ไม่สนใจ ดังนั้นการพัฒนาจึงเป็นเรื่องเร่งด่วน วันนี้ต้องช่วยกันคิดว่าจะแก้ปัญหาการเฮดสปีช ในโซเชียลมีเดียได้อย่างไร เพราะระยะนี้มีปัญหาค่อนข้างมาก ทั้งการให้ร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ปัญหาอย่างเต็มที่

“เปิดไปไม่เจอตรงๆ หรอก แต่จะอยู่หลังๆ รายการเพลง หลังละคร ซึ่งจะมีแทรกมาตอนท้าย ๆ จะให้ผมทำอย่างไร ปิดตรงนี้ไปตรงโน้น แก้กฎหมายก็ยังเป็นอยู่อย่างนี้ สังคมต้องเรียนรู้ช่วยรัฐบาล ต้องรู้ว่าผิดหรือถูกหรือไม่รู้ว่าข้างบ้านกำลังทำอะไรอยู่ ก็ช่วยเตือนเขาบ้าง ประเทศชาติขัดแย้งอย่างนี้ไม่ได้ ถ้าต้องการความสงบ แต่ไม่ร่วมมือสร้างความขัดแงเพิ่มเติม เราก็ไปไม่ได้ ต้องให้คุณค่าต่อสังคม ไม่สร้างความเกลียดชัง ต้องไม่มีการให้ร้ายคู่แข่งอย่างไม่เป็นธรรม การให้เขาด้อยค่า ซึ่งสรุปแล้วไม่มีใครผิดถูกเลย แล้วสังคมจะอยู่กันได้อย่างไร ถ้าไม่ให้กระบวนการยุติธรรมตัดสิน ถ้าเกลียดขี้หน้ากันก็ทำงานร่วมกันไม่ได้” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับสั่งว่า ถ้ามีคนไม่ดี ก็ควรหาความดีของเขา ค่อยๆ เติมความดี คนคนนั้นอาจจะดีขึ้นบ้าง แม้ไม่ดีขึ้นก็ยังเสมอตัว ไม่รบกวนคนอื่นเขา แต่ถ้าตัดสินด้วยอารมณ์คงไม่ได้ เพราะต้องคิดด้วยสติปัญญา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงชี้แนะให้พวกเราใช้สติปัญญา รู้จักคิด ทำ ปฏิบัติ พระองค์ท่านทรงรับสั่งมาก แต่พวกเราไม่ค่อยทำ ตอบตัวเองได้หรือไม่ ว่านำพระราชดำรัสของพระองค์มาใช้หรือเปล่า เช่นแนวคิด หลักการเศรษฐกิจพอเพียง ต่างชาติก็กำลังให้ความสนใจ และนำไปปรับใช้ ซึ่งต่างชาติบอกว่าหลายอย่างที่ประเทศไทยมี สามารถปรับใช้กับประเทศเขาได้ ขอให้ข้าราชการ ประชาชน เรียนรู้ไปด้วยกัน มุ่งหวังประโยชน์ต่อบ้านเมืองให้มากที่สุด ทำอะไรก็ตามต้องมองถึงคนมีส่วนได้เสีย ซึ่งรัฐบาลมองทุกกลุ่ม

“หนังสือพิมพ์บางเล่ม เมื่อคนเปิดไปก็จะดูหน้าแรก หน้าการเมือง และหน้าดารา แต่ก็ต้องดูว่าในนั้นมีความก้าวหน้าอย่างไร ซึ่งทุกกระทรวงทำงานก้าวหน้าหมด หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันมีทั้งขัดแย้ง การเมือง แต่ก็มีส่วนดีๆ อยู่ทุกเล่ม ถามว่าทุกคนในองค์กรหนังสือพิมพ์เล่มนั้นๆ ได้อ่านเล่มอื่นกันบ้างหรือไม่ หรือว่าอ่านแต่เล่มตัวเอง หรือว่าพอตื่นมาก็นึกเอา แล้วเขียนหาจุดบกพร่องของรัฐบาลแล้วตี ไปอย่างนี้ไม่ได้ ในตัวหนังสือพิมพ์ ยังขัดแย้งกันเอง ผมเข้าใจที่ต้องนำเสนอทั้ง 2 ฝ่าย แต่บางเรื่องยังไม่จบ ก็กลับมาตี แย่จริง ๆ สร้างความบิดเบือนหมด เช่นพร้อมเพย์ ขึ้นทะเบียนคนจน” นายกฯ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image