บทนำ : ส.ว.ไม่เห็นด้วย : ประจำวันอังคารที่ 4 สิงหาคม 2563

สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.บางส่วนเริ่มออกมาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 256 ในรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อเปิดทางให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. โดยบางคนระบุว่าการแก้มาตรา 256 เพื่อให้มี ส.ส.ร.กระบวนการจะยาวมาก สิ้นเปลืองงบประมาณ และยังต้องทำประชามติ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเพิ่งใช้มาได้ 3 ปี ไม่น่ารีบเร่งรื้อใหม่หมดทั้งฉบับ ควรแก้เฉพาะมาตราที่เห็นว่าเป็นปัญหา

ท่าทีไม่เห็นด้วยของ ส.ว.ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะมีผลแน่นอน เพราะรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในขั้นรับหลักการหรือวาระ 1 และให้ความเห็นชอบในวาระ 3 จะต้องมีเสียงเห็นชอบ เกินครึ่งของรัฐสภาที่มี 750 เสียง หรือเกิน 375 เสียง และใน 375 เสียง จะต้องมี ส.ว.เห็นชอบด้วย 1 ใน 3 ของวุฒิสภาซึ่งมี 250 คน เท่ากับ 84 เสียงขึ้นไป ดังนั้น หากวุฒิสภาไม่เห็นด้วย คะแนนเสียงที่จะรับรองให้ผ่านวาระ 1 และวาระ 3 จะมีปัญหามาก

การที่จะให้ ส.ว.เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการแก้ไข มาตรา 256 ให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ทางสภาผู้แทนฯ และภาคประชาชน จะต้องร่วมกันรณรงค์ให้ ส.ว.เห็นความสำคัญของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสียสละอำนาจของ ส.ว.ที่ขัดกับมาตรฐานการเมืองของนานาชาติและยอมเปลี่ยนท่าที และที่สำคัญ ผู้นำรัฐบาล ซึ่งเป็นผู้นำ คสช. จะต้องทำความเข้าใจกับ ส.ว. เนื่องจาก ส.ว. 250 คน มาจากการคัดเลือกของ คสช.นั่นเอง

และหาก ส.ว.ยังคงยืนยันไม่แก้ไขตามแนวทางของสภาผู้แทนฯ และตามแนวทางที่เยาวชน ประชาชนเรียกร้อง อาจนำไปสู่วิกฤตการเมืองได้ เพราะขณะนี้ สังคมกำลังเห็นว่ารัฐธรรมนูญเป็นต้นเหตุของปัญหาหลายประการ โดยเฉพาะปัญหาความชอบธรรม ทำให้ประชาชนหลายส่วน และคนรุ่นใหม่ ไม่ยอมรับในรัฐบาลชุดนี้ เกิดการเคลื่อนไหวแฟลชม็อบ ยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ขับไล่รัฐบาล และกำลังขยายตัวออกไป ส่วนจะไปถึงระดับไหน ยังไม่มีใครบอกได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image