‘ชัยธวัช’ ดึงสติ ‘ส.ว.’ หลังดาหน้าขวางทางตั้งส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ลั่น อำนาจอธิปไตยเป็นของปชช.
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มี ส.ว. บางท่านออกมาให้ความเห็นคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ที่เปิดช่องให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลว่า การตั้ง ส.ส.ร. นั้นสิ้นเปลืองงบประมาณในการทำประชามติ หรือใช้เวลานาน สุดท้าย หาก ส.ว. หรือ ส.ส. ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับของ ส.ส.ร. บางมาตรา ร่างรัฐธรรมนูญนั้นก็จะไม่ผ่านสภาอยู่ดี ส.ว. บางท่านถึงกับประกาศว่า จะไม่ยอมตีเช็คเปล่าให้ ส.ส.ร. เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ตามใจชอบ โดยเฉพาะถ้าไปแตะเรื่อง ส.ว. คงยอมกันไม่ได้ พรรคก้าวไกลขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐธรรมนูญฉบับ คสช. เป็นระเบิดเวลา สำหรับสังคมไทย
รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเพียงใบอนุญาตให้คณะรัฐประหารสืบทอดอำนาจต่อไปเรื่อยๆ และอนุญาตให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งอยู่เหนืออำนาจที่ยึดโยงกับเสียงของประชาชน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้การบริหารประเทศไร้ประสิทธิภาพ เปิดช่องให้ใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล ไม่เห็นหัวประชาชน ไม่มีความชอบธรรมทางประชาธิปไตย แม้จะผ่านการลงประชามติ แต่ก็เป็นการทำประชามติที่บิดเบี้ยว และประชาชนจำนวนมากลงมติเห็นชอบก็เพียงเพื่อต้องการออกจากระบอบ คสช. และให้มีการเลือกตั้งใหม่เร็วๆ
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะยิ่งสะสมปัญหาและความขัดแย้งทางการเมือง ที่รอวันปะทุขึ้นมา ดังนั้น พวกเราต้องช่วยกันถอดสลักระเบิดเวลาลูกนี้ ด้วยการเปิดพื้นที่ทางการเมืองให้ประชาชนทั้งประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบระบบการเมืองที่ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกัน ผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจาการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน นี่เป็นวิถีทางที่ดีที่สุดในการแสวงหาฉันทามติและความปรองดองครั้งใหม่ นี่ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น ทางรอดของสังคมไทย
ตนอยากจะฝากไปถึง ส.ว.ว่า อย่าทำตัวเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยเสียเองโดยการมากำหนดว่าจะยอมหรือไม่ยอมให้แก้รัฐธรรมนูญอย่างไร เพราะจะทำให้ ส.ว. กลายเป็นผู้ผลักการเมืองไทยให้ไปสู่ทางตันบทบาทของ ส.ว. เช่นนี้จะยิ่งทำให้ประชาชนตั้งคำถามดังขึ้นเรื่อยๆ ว่าส.ว. มีไว้ทำไม อย่าตอกย้ำให้ประชาชนรู้สึกว่าส.ว. ไร้ประโยชน์สิ้นดีไปมากกว่านี้ และการที่ ส.ส. และ ส.ว. หันมาร่วมมือกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อปลดล็อกให้รัฐธรรมนูญแก้ไขรายประเด็นได้ง่ายขึ้น พร้อมกับเพิ่มหมวดการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เข้าไป เพื่อเปิดช่องให้มีการตั้ง ส.ส.ร. คือ ทางออก ที่ดีที่สุดในการผ่าทางตันทางการเมืองอย่างสันติและมีความชอบธรรมทางประชาธิปไตย
เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เมื่อรัฐสภาผ่านร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อปลดล็อก มาตรา 256 และเปิดทางให้มี ส.ส.ร. แล้ว ก็ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเองผ่านการลงประชามติครั้งที่ 1 ว่าเจ้าของอำนาจอธิปไตยส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ใช่ ส.ว. ยอมให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ถ้าประชามติครั้งที่ 1 ผ่าน และ ส.ส.ร. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วเสร็จ ก็ส่งตรงไปให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเองผ่านการลงประชามติครั้งที่ 2 ว่าจะยอมรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ส.ส.ร. หรือไม่
“กระบวนการดังกล่าวไม่ช้าเกินไป หากเทียบกับเวลาที่ประเทศชาติสูญเสียไปภายใต้ระบอบ คสช. และกระบวนการดังกล่าวไม่แพงเกินไป หากสามารถช่วยให้ไม่ต้องเกิดความสูญเสียครั้งใหญ่จากทางตันทางการเมือง ส.ว. ต้องเคารพและฟังเสียงของประชาชน ไม่ใช่ข่มหัวประชาชนให้ต้องเคารพและฟังเสียง ส.ว. ที่พวกเขาไม่ได้เลือกมา” นายชัยธวัช กล่าว
