ฝ่ายค้าน ยอมยื่นร่างแก้ รธน.พร้อมฉบับของ รบ. ซีก ปชป.ตั้งคณะทำงาน มอบ บัญญัติ นำทีมหารือพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 โดยนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ว่า ในการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านกรณีการยื่นญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อประธานสภาว่า จากการประชุมร่วมกันมองว่ามีหลายประเด็นต้องทบทวนและหาข้อสรุปใหม่ เช่น อายุของบุคคลที่จะเข้ามาเป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยพรรคเพื่อไทยเสนอว่าควรมีอายุ 25 ปีขึ้นไป แต่พรรคอื่นๆ เสนอให้ลดอายุเหลือตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
รวมทั้งกรณีว่าจะเสนอร่างแก้ไขเป็นฉบับเดียวหรือแยกฉบับของแต่ละพรรค ในวันนี้ (6 ส.ค.) พรรคร่วมฝ่ายจะประชุมร่วมกันอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุป นอกจากนี้ ยังได้รับการประสานจากนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลหรือวิปรัฐบาล ที่แจ้งว่า รัฐบาลได้คุยกับ ส.ว.ที่พร้อมให้ความร่วมมือในส่วนที่ทำได้ จึงอยากให้ทางฝ่ายค้านชะลอการยื่นญัตติออกไปก่อนเพื่อรอร่างแก้ไขในส่วนของรัฐบาลที่จะยื่นพร้อมกับฝ่ายค้าน เพราะอยากให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าไปได้
นายสุทินกล่าวอีกว่า นายวิรัชระบุรัฐบาลขอรอดูผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนฯ อย่างเป็นทางการด้วย เพราะอาจจะมีสาระสำคัญอื่นๆ ทางฝ่ายค้านรับได้แต่ต้องไม่เกินวันที่ 15 สิงหาคมนี้ เพราะเราต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย ประธานวิปรัฐบาลรับปากว่าจะไปพูดคุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประธานกรรมาธิการ ว่าให้เร่งประชุมเพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ต้องไม่เกินเวลาที่ฝ่ายค้านกำหนด ทั้งนี้ เรายอมยืดหยุ่นให้รัฐบาล ไม่อยากดึงดันเพราะเกรงว่าร่างจะไม่ผ่าน ที่สำคัญสังคมจะได้รู้กันไปเลยว่ารัฐบาลจริงใจหรือไม่
ขณะเดียวกัน ในส่วนของ ส.ส.ประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้เรียกประชุมไปแล้วเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ก่อนมีข้อสรุป 2 ประเด็น คือ 1.ที่ประชุมเห็นตรงกันให้เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเสียง ส.ส.ของพรรคจำกัด จะเสนอพรรคเดียวไม่ได้ เพราะ ปชป.มีเพียง 52 เสียง หากจะเสนอเองต้องใช้เสียงถึง 100 เสียง แนวทางที่ดีที่สุด คือ เสนอร่างร่วมกัน ที่ประชุมได้มอบหมายให้วิปของพรรคไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล
2.การกำหนดประเด็นเพิ่มเติม นอกจากการแก้ไขมาตรา 256 ที่ประชุมให้มีคณะทำงานชุดหนึ่งเพื่อกำหนดประเด็น ข้อเสนอและรายละเอียดก่อนนำไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล คณะทำงานชุดนี้ ประกอบด้วย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส.พรรค นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช และประธานวิปพรรค และมีคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรค ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะทำงานนี้
เมื่อถามว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยวิธีการใด นายจุรินทร์กล่าวว่า ขอให้วิปรัฐบาลไปหารือกันก่อน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดทั้งหมดวิปจะเป็นผู้ทำหน้าที่หารือ โดยในส่วนของ ปชป.นายชินวรณ์จะเป็นผู้ประสานงานกับวิปรัฐบาล ทั้งนี้ ประเด็นที่จะกำหนดมีอยู่เบื้องต้นแล้วนอกจากมาตรา 256 ที่เป็นจุดยืนของพรรค ปชป. เพียงแต่ให้คณะทำงานหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปเท่านั้นเอง
เมื่อถามถึงท่าทีของ ส.ว. นายจุรินทร์กล่าวว่า ขอไม่ให้ความเห็นกับเรื่องนี้ เพราะพรรคไม่ประสงค์จะขัดแย้งกับฝ่ายใด พรรคมุ่งไปที่ผลสัมฤทธิ์ของการแก้ไขและอยากให้สำเร็จ แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะมาตราใดก็ตามจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่ายและการสนับสนุนจาก ส.ว.
