ฟัง ‘บิ๊กแดง’ สอนน้อง จปร. ‘โรคโควิดเป็นแล้วหาย แต่ที่เป็นแล้วไม่หายคือโรคชังชาติ เกลียดชาติบ้านเมืองตัวเอง’

(แฟ้มภาพ)

ฟัง “บิ๊กแดง” สอนน้อง จปร. “โรคโควิดเป็นแล้วหาย แต่ที่เป็นแล้วไม่หายคือโรคชังชาติ เกลียดชาติบ้านเมืองตัวเอง”

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานวันพระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ครบรอบ 133 ปี ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก เมื่อวานนี้ 5 สิงหาคม ขณะที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินตรวจการแต่งกายชุดพระราชทาน ของนักเรียน จปร.ชั้นปีที่ 4 และ 5 ที่ตั้งแถวรอรับด้านหน้ากองบัญชาการนายร้อยพระจุลจอมเกล้า พร้อมพูดคุยกับนักเรียนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

หลังจากนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 5 ไปร่วมคณะฝึก Lightning forge ที่มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา พล.อ.อภิรัชต์ได้สอบถามถึงความรู้สึกของรุ่นน้องว่าหวาดกลัวโรคโควิด-19 หรือไม่ และกล่าวว่า “โรคโควิดเป็นแล้วหาย แต่ที่เป็นแล้วไม่หายคือโรคชังชาติ เกลียดชาติบ้านเมืองตัวเอง นี่เป็นไม่หาย เพราะว่ามีการเหน็บแนมประเทศตัวเอง”

พล.อ.อภิรัชต์ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ถามว่าโรคชังชาติจะรักษาอย่างไรให้หาย ว่า คงไม่มีวัคซีนแต่ต้องปลูกฝังตั้งแต่เป็นเยาวชนให้รู้จักการรักชาติความสามัคคี อยู่ๆ จะมาเกลียดชาติตัวเองได้อย่างไร

เมื่อถามว่า ประชาชนมีความเป็นห่วง การเดินทางมาของทหารสหรัฐ ที่เข้ามาร่วมฝึกกับทหารไทยในประเทศ พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า มาตรการของทหารสหรัฐเดินทางเข้ามาก็ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค.ทุกอย่าง โดยไม่เคยมีการปฏิเสธรวมถึงการเข้ากับตัวในสถานกักตัวทางเลือก หรือ Alternative State Quarantine (ASQ) และมีการสวอปถึง 3 ครั้งตามที่ พล.อ.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กองทัพบก (ผอ.ศบค.ทบ.) ได้ชี้แจงกับสื่อไปก่อนหน้านี้

Advertisement

ส่วนการฝึกอะไรที่ไม่มีความจำเป็นเราก็มีการลดและเลื่อนออกไปก่อน ส่วนการฝึกใดที่มีความจำเป็น เราก็ลดระดับและขนาดการฝึกลงมา เพราะทหารยังคงต้องดำรงเรื่องการฝึก เพราะเราไม่สามารถปิดประเทศได้ แต่การระวังป้องกันที่ผ่านมา เชื่อว่าคนไทยได้รับตัวอย่าง และประเทศไทยเป็นประเทศตัวอย่างที่สามารถป้องกันเพราะเรามีวินัยและสวมหน้ากากอนามัยกันทุกคน ทำให้ชาติอื่นมองเห็นและมีความเชื่อมั่น เป็นสิ่งที่เห็นได้ว่ารัฐบาลสามารถควบคุม แม้การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะยืดออกไป แต่ก็มีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เป็นระยะ จึงเชื่อว่าไม่ว่าจะคณะทูต คณะทางการค้า ทางรัฐบาลก็คงจะมีการพิจารณา

นายกรัฐมนตรีคิดแบบนี้ตลอด ว่ายังไงประเทศไทยก็ต้องเดินหน้าต่อไป ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จังหวัดระยอง ถือว่าเป็นการเริ่มต้นการประชุมในรูปแบบนิวนอร์มอล รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่จะตามมาด้วย ส่วนทหารก็ถือเป็นองค์กรหนึ่ง การจัดประชุมก็เหมือนการฝึก

พล.อ.อภิรัชต์กล่าวต่อว่า โรคโควิด-19 เป็นกันทั่วโลกอยู่ที่ 1.วินัย และ 2.การระวังป้องกันและเป็นโรคที่รักษาหายได้รวมทั้งมีวิธีการป้องกัน

Advertisement

เมื่อถามว่า เหตุใดจึงใช้การสถานที่กักกันเป็นโรงแรมใจกลางกรุงแทนสถานที่ของทหาร พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า ต้องผ่านขั้นตอนการคัดกรองโรคก่อน ซึ่งการไปคัดกรองโรคในค่ายทหารมีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอ เพราะไม่ได้มีการจัดแบ่งห้องไว้ จะให้ไปอยู่ในค่ายทหารได้อย่างไร แต่ทั้งนี้มีการปิดโรงแรมและทางเขาออกค่าใช้จ่ายเองทุกอย่าง เพื่อดำรงความต่อเนื่องในการฝึก แม้เดิมคนจะมา 300 คน แต่ก็ปรับลดขนาดลงมา เพื่อเอาเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ ทุกประเทศที่มาฝึกไม่ว่าจะเป็นประเทศอะไรก็ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนนี้ทุกคน และมีการสวอบถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกผ่านไปแล้วเรียบร้อย ทุกคนมีผลการตรวจเชื้อออกมาเป็นลบ ไม่มีใครติดโควิด-19 จากนั้นเหลือการสวอปครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ก่อนที่จะมีการฝึกต่อไป โดยจะเป็นการฝึกแบบระบบปิดในค่ายทหาร

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image