‘เลขาฯสมช.’ เผย คกก.เฉพาะกิจฯ ไฟเขียวแข่งขันกีฬาทุกชนิดแบบมีผู้เข้าชม – เปิดร.ร.เต็มรูปแบบ จ่อชงศบค. เคาะ 21 ส.ค.
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯ ว่า วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้พูดคุยกันหลายเรื่อง ในเรื่องของการผ่อนคลายการจัดการแข่งขันกีฬา จะอนุญาตให้มีผู้ชม เข้าชมการแข่งขันกีฬาได้ทุกชนิด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดกีฬา และประเภทของสนามที่ใช้ในการแข่งขัน ว่า เป็นแบบกลางแจ้งหรือแบบในร่ม ซึ่งจะมีมาตรการต่างกัน แต่โดยหลักการคือจะเปิดให้ผู้ชมเข้ามาชมการแข่งขันกีฬาได้ เช่น สนามฟุตบอล สนามมวย ฯลฯ ซึ่งจะมีมาตรการกำกับอย่างชัดเจนโดยการกีฬาแห่งประเทศไทยจะไปจัดทำรายละเอียดที่สอดคล้องกับประเภทของกีฬาและชนิดของสนามที่ใช้ในการแข่งขัน เช่น การจำกัดจำนวนผู้เข้าชม หากเป็นการแข่งขันในร่มก็อาจจะจำกัดให้มีจำนวนน้อย ซึ่งก็ต้องรอรายละเอียดจากการกีฬาแห่งประเทศไทยส่งเข้ามาที่คณะกรรมการฯ อีกครั้งหนึ่ง
พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนเรื่องการเปิดโรงเรียน วันนี้ที่ประชุมได้พูดคุยกันว่าจะให้เรียนแบบปกติ ซึ่งก็จะมีมาตรการรองรับ ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับความพร้อมและความสมัครใจของสถานศึกษานั้นๆ หากสถาบันไหนอยากจะใช้วิธีเรียนออนไลน์ก็สามารถทำได้ อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องการผ่อนคลายระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางบกและทางน้ำ เช่น รถเมล์ รถโดยสาร และเรือ เป็นต้น ที่จะอนุญาตให้จุตามความจุ 100 เปอร์เซนต์ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการใส่หน้ากากอนามัย และมาตรการอื่นควบคู่ไปด้วย เพราะหากเปิดโรงเรียนอย่างเต็มรูปแบบการขนส่งสาธารณะก็ต้องเพิ่ม เพื่อรองรับประชาชนใช้บริการ
เลขาฯ สมช. กล่าวว่า นอกจากนี้ในที่ประชุมได้พิจารณาถึงมาตรการผ่อนปรนเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเรื่องเศรษฐกิจ โดยการให้ล้งจากประเทศจีน เดินทางเข้ามาทำการรับซื้อผลไม้จากไทย เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยมีเงื่อนไขจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองโรคก่อนเข้าประเทศ และเมื่อมาถึงต้องเข้ายังสถานกักกันโรคแบบทางเลือก( Alternative State Quarantin หรือ ASQ ) จนครบ 14 วัน พร้อมกับตรวจโรคอีกครั้งก่อนออกจากสถานที่กักกันตัว ซึ่งไม่ได้มีการจำกัดจำนวนวัน หรือกำหนดให้แจ้งเส้นทางการเดินทางในประเทศเนื่องจากผ่านการกักกันโรคแล้ว เช่นเดียวกับคนไทยที่เดินทางกลับประเทศ เนื่องจากการอนุญาตดังกล่าว จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ที่ประชุมยังไม่ได้หารือถึงการขยายระยะเวลาการเปิดสถานบันเทิงจากเวลา 24.00 น. เป็น 02.00 น. เพราะหากให้ขยายเวลาเปิดไปก็ไม่มีประโยชน์ เนื่องจากสามารถจำหน่ายแอลกอฮอล์ได้ถึงเวลา 24.00 น.เท่านั้น คาดว่าจะนำผลการประชุมเข้าพิจารณาใน ศบค. ชุดใหญ่ ในวันที่ 21 สิงหาคม
