เสวนา ‘กลุ่มแคร์’ ถก หลักนิติธรรม ชี้ รวย-จน มาตรฐานต่าง จี้เร่งแก้ภาพลบ ด้วยความ ‘สากล’
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่ห้องอิศรา อนันตกุลอาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ กลุ่มแคร์ จัดเสวนาโต๊ะกลม ในหัวข้อ “หลักนิติธรรม (Rule of Law) : ข้อห่วงใยของสังคมไทย” ในตอนหนึ่ง นายอานุภาพ ธีรณิศรานนท์ ผู้จัดรายการวิทยุ และที่ปรึกษากฎหมาย กล่าวว่า ถ้าเข้าไปในตลาดสดจะเป็นปฏิกิริยาอีกแบบ เป็นการสะท้อนของสังคมที่แท้จริงวลีที่ว่า คุกมีไว้ขังคนจน ยิ่งตอกย้ำสิ่งที่ประธานศาลฎีกา พยายามเอาคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมออกจากคุกเรื่องนี้เป็นเรื่องมาตรฐาน คือ มาตรฐานคนรวย กับมาตรฐานคนจน ไม่เชื่อให้ดูเวลาไปแจ้งความ ทนายความก็มีบทบาทสำคัญ เพราะบางส่วนดี บางส่วนหวังผลประโยชน์ของลูกความ
เรื่องของกฎหมายไม่เป็นกฎหมาย กับ ความไม่ยุติธรรม กฎหมายคือความเป็นธรรม เพื่อสร้างความเท่าเทียม ซึ่งเรามีปัญหา ถ้าบังคับใช้อย่างเสมอภาค สังคมก็น่าอยู่ เรื่องของประชาธิปไตยก็เรื่องใหญ่ ถ้าสังคมเราเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง คดีบอส อยู่วิทยา ก็คงไม่เกิด
นายอานุภาพ กล่าวว่า สังคมสมัยยุคเบบี้บูมเมอร์ พ่อแม่ตีแล้วสอนให้ไปขอโทษเขา แต่สมัยนี้ไม่ใช่ พ่อแม่ที่มีฐานะ เหนื่อยกับลูก ทำผิดอะไรไว้ต้องไปชดใช้ เรื่องนี้กระจายมาถึงสถาบันการศึกษา เราจะเอาบรรทัดฐานอะไรมาใช้ในสังคม แค่คนๆ เดียวกระทบไปทั้งสังคม คนในครอบครัวเขาเองไม่สบายใจที่คนในตระกูลทำความเสียหายให้สังคม
นายอานุภาพ ยังกล่าวว่า ตอนนี้สังคมตื่นตัว มีการยื่นให้ไต่ส่วนเรื่องนี้ กมธ.ในสภาก็ตื่นตัว หากแก้ไม่ได้จะกินใจคนไปอีกนาน ไม่หวังความยุติธรรม เพราะมีทางออก อัยการสูงสุด 2 ท่านที่มาให้ความเห็นทางกฎหมาย ทำให้สังคมเข้าใจมากขึ้นเรื่องการที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง การที่ท่านอัยการสูงสุด 2 ท่าน หากออกมาในทิศทางที่ดี สังคมจะเบาบางลง นายกฯ ก็ตั้ง กมธ.ในเรื่องนี้ เราจะทำอย่างไรให้ภาพลบนี้เป็นประโยชน์กับสังคม เพราะเป็นกรณีศึกษาที่แพงมาก หากแก้ได้จะเป็นภาพที่ดีให้ประเทศไทย
เหตุการณ์ที่เกิด หากผมขับรถชนคนตาย คดีคงเร็ว และป่านนี้ได้ออกจากคุกไปแล้ว เราจะต้องเริ่มมีการสังคายนากระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นจริงเป็นจัง ทุกระดับ ให้เท่าเทียม สภามีหน้าที่ออกกฎหมาย แต่คนใช้กฎหมายบางครั้งไปไม่ถึง การสังคายนาครั้งใหญ่นี้น่าจะเกิดได้เพราะสถานการณ์เอื้ออำนวย น่าจะเกิดความร่วมมือจากบรรดาอาจารย์ที่เกษียณอายุ อาจช่วยกันออกมามีมุมมอง
“เราต้องยอมรับความคิดของคนรุ่นใหม่ บางครั้งเรายังยอมรับความคิดของลูกของหลาน หลายคนอาจให้เขาสอนเราด้วยซ้ำไป ดังนั้น ต้องจริงใจ จริงจัง ในการบังคับใช้กฎหมาย ให้ถูกต้องและเป็นธรรม อ.สัญญา ธรรมศักดิ์ มีประโยคทอง ‘อย่ามองว่าใครผิดใครถูก แต่ให้มองว่าอะไรผิดอะไรถูก’ จากเรื่องธรรมดาที่กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต คือบทเรียนราคาแพง ขอให้คิดเพื่อส่วนรวม ปัญหาจะน้อยมาก แต่คิดเพื่อส่วนตัวปัญหาจะมาก และอยู่ได้ไม่นาน ไม่อยากให้เหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในบ้านเมือง ขอให้การแก้ปัญหาในกระบวนการยุติธรรมผ่านไปด้วยดี เข้าถึงความเป็นสากลเสียที” นายอานุภาพกล่าว
