นศ.มธ.แจง ‘งบ’ รัฐ เพิ่มส่วนกลาง ตัดทอนของเด็ก เบรก ‘บิ๊กตู่’ หยุดมโน ฟังเสียง ปชช.
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 สิงหาคม ที่ลานพญานาค ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย จัดงาน ‘ธรรมศาสตร์จะไม่ทน’ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ทะยอยเข้าร่วมตั้งแต่เวลาราว 15.30 น. โดยบริเวณทางเข้า โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ ได้ตั้งโต๊ะรณรงค์ล่า 50,000 ชื่อ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ทั้งนี้ มีผู้ร่วมลงชื่ออย่างไม่ขาดสาย ทั้งนักศึกษาและประชาชนทั่วไป
ภายในงานมีการตั้งเวที มีการฉายภาพอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยสีแดงบนฉากสีดำ พร้อมข้อความ ‘เราไม่ต้องการปฏิรูป เราต้องการปฏิวัติ’ โดยผู้ร่วมงานส่วนหนึ่งแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำ รวมถึงเสื้อยืดสกรีนลวดลายสื่อถึงการต่อต้านเผด็จการ มีการฉายข้อความ ‘ขอต้อนรับ….ทั้งในและนอกเครื่องแบบ’ อีกด้วย
ในตอนหนึ่ง นายปวรัตน์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ถามว่าเงินกู้ 3 ล้านล้านบาทมากขนาดไหน ให้นึกภาพตัวเลขเรียงกัน 13 ตัว คือตัวเลขมหาศาล คืองบมากสุดเท่าที่เคยเสนอมา ซึ่งโดย ปกติการทำงานมีงบประมาณ 2 ส่วนคือ 1.รายได้ และ 2.เงินกู้ แต่เงินกู้ไม่ใช่รายได้เหมือนที่หลายหน่วยงานคิด
รายได้ประมาณการ 2.47 ล้านล้านบาท ที่น่าประหลาดใจกว่าคือภาษีที่ถูกเก็บมากที่สุดคือภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ แวต 7 เปอร์เซ็นต์ ประมาณกว่า 830,000 ล้าน มหาศาลมากพอจะออกมาเรียกร้องหรือไม่ วิงวอน อยากให้เพื่อต่างอุดมการณ์คิดว่า เมื่อจ่ายภาษี เหตุใดจึงมาเรียกร้องไม่ได้ เพราะเราจ่ายภาษีเพื่อพัฒนาประเทศ หากมองเป็นบริษัท พวกเราคือผู้ถือหุ้นรายย่อย คงไม่มีคนบ้าที่ไหนถือหุ้นบริษัทแล้วอยากให้บริษัทพังพินาศ เรามาเรียกร้องเพื่อให้ประเทศของเราดีขึ้น
“งบประมาณปี 2564 กู้มา 630,000 ล้าน 1 ใน 4 มาจากแวตของเรา และ 1 ใน 5 มาจากการกู้
ซึ่งยังมีการคืนเงิน เราหาได้ 2.2 พันล้าน แต่ใช้คืนได้ 4.4.หมื่นล้าน เป็นหนี้คาหัว อีกกี่ปีกว่าจะหมด ซึ่งช่วงที่ พล.อ.ประยุกธ์ เสนอ พ.ร.ก.เงินกู้ 1.1 ล้านล้านบาท หาแหล่งกู้ 3.285 ล้านล้านบาท ต้องอยู่ใช้หนี้ครบร้อยปีแน่นอน เพราะเราเก็บเงินได้ตามประมาณการณ์ เพียงปีเดียว คือ ปี 62
ส่วนอนาคต ถามว่าทุกวันนี้เห็นนโยบายอะไรที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ซึ่งผลจะนำไปสู่การที่คนไม่จ่ายภาษี เพราะไม่มีเงิน” นายปวรัตน์กล่าว และว่า
สองหน่วยงาน สำนักนายกฯ และ กระทรวงลาโหม สิริรวม งบลับ 138 ล้านบาท ที่ไม่มีการชี้แจง เราจะสบายใจได้หรือ ที่เห็นพวกท่านนำเงินไปผลาญแบบนี้
นายปวรัตน์กล่าวต่อว่า สุดท้าย เรื่องการจัดสรรงบประมาณ ที่เพิ่ม-ลดในส่วนที่ไม่สมเหตุ คือ งบมากที่สุด เพิ่ม 1.งบกลาง 18.6 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือ กระทรวงศึกษาธิการ ปีนี้ 10.9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง 5.7 เปอร์ คืองบดำเนินการ จำพวกสัมมนา ท่องเที่ยว โดยงบที่ลด เป็นงบพัฒนาเยาวชนทั้งหมด เหตุผลเพราะจำนวนเด็กไทยลดลง เราเข้าสังคมผู้สูงอายุ แต่สิงคโปร์กลับเพิ่มงบ 4 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากเซลล์สมองต่ำ มายด์เซ็ตยังย่ำแย่
5,800 กว่าล้านบาท ถลุงไปกับสัมมนาท่องเที่ยว ซึ่งพรากเวลาไปจากเด็ก งบอาหารเช้า 3,340 ล้าน งบน้อยกว่าสัมมนา ทุกคนรู้ แฟนคลับรู้ อาหารเช้าสำคัญมาก
“ที่ถูกเพิ่มคือ งบกลาง ประมาณ 6,140 ล้านบาท ใช้ในช่วงวิกฤต สถานการณ์ฉุกเฉิน และจัดสรรให้ราชการ วิสาหกิจ แต่ 70 ไปลงที่บำเน็จ บำนาญข้าราชการหมดแล้ว สะท้อนให้เห็นความเป็นรัฐราชการที่ถ่วงประเทศ ไม่ใช่แค่กระทรวงศึกษาธิการ แต่ทั้งประเทศ เพราะ 70 เปอร์เซ็นต์ คืองบรายจ่ายประจำ เหลือลงทุนไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์
สิ่งแรกที่ท่านประยุทธ์ควรทำ คือ ‘หยุด’ 1.หยุดมโนแล้วฟังเสียงประชาชนว่าต้องการอะไร 2.หยุดมองประโยชน์ของพวกพ้อง มองประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่พวกท่านและข้าราชการที่ประจบประแจง 3.หยุดงบลุงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ” นายปวรัตน์กล่าว
