กกต.ตั้งโต๊ะแถลงด่วนโต้ ‘มท.1’ อย่าโยนให้ตกเป็นจำเลยสังคม ยันพร้อมจัด ลต.ท้องถิ่น

กกต.ตั้งโต๊ะแถลงโต้ ‘บิ๊กป๊อก’ หลังอ้างไม่พร้อมจัดเลือกตั้งท้องถิ่น วอนอย่าโยน กกต.ให้ตกเป็นจำเลยของสังคม ท้า หากรัฐจริงใจต้องการกระจายอำนาจท้องถิ่นแจ้งกลับภายใน 1 เดือน พร้อมกำหนดวันและจัดเลือกตั้งให้เสร็จภายในปี’63 ‘ปกรณ์’ ลั่น หากทำไม่ได้พร้อมพิจารณาตัวเอง

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 11 สิงหาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายปกรณ์ มหรรณพ และนายฐิติเชฎฐ์ นุชนาฎ กรรมการ กกต. ร่วมกันแถลงข่าวกรณี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่ายังไม่พร้อมเลือกตั้งท้องถิ่น เนื่องจากต้องรอ กกต.ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ โดยนายปกรณ์กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยน่าจะต้องตรวจสอบในองค์กรที่ท่านรับผิดชอบว่าพร้อมหรือไม่สำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น มิใช่มากล่าวอ้างถึง กกต. ที่ผ่านมาสำนักงาน กกต.แถลงยืนยันมาตลอดตั้งแต่เมษายนว่าเราพร้อมสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่กระทรวงมหาดไทยมีเอกสารลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดว่ายังไม่พร้อมสำหรับการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น เพราะท้องถิ่นบางส่วนยังไม่สามารถดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งได้ โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมา 3 แห่ง ระนอง และลพบุรี อย่างละ 1 แห่ง

“สำนักงาน กกต.แถลงและมีข้อมูลยืนยันให้สื่อมาตลอด แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวเช่นนี้ทำให้ กกต.ตกเป็นจำเลยของสังคมว่าไม่พร้อมสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น เรียนไปยังรัฐมนตรีและรัฐบาลว่าหากมีความจริงใจในการกระจายอำนาจและการเลือกตั้งท้องถิ่น ขอให้แจ้งมายัง กกต.เพื่อให้ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งโดยขอให้แจ้งมาภายใน 1 เดือนนับแต่วันนี้ เพื่อให้ กกต.ดำเนินการประกาศวันเลือกตั้งและจัดการเลือกตั้งให้เสร็จเรียบร้อยภายในปีนี้ หาก กกต.ได้รับแจ้งแล้วไม่สามารถดำเนินการเลือกตั้งให้เรียบร้อยในปีนี้ได้ ผมยินดีรับผิดชอบและจะพิจารณาตัวเอง กกต.ทั้ง 7 คน มาตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะผมมาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เราไม่ได้มาจากรัฐบาลหรือ คสช.ดังที่นักวิชาการ หรือนักการเมืองหลายพรรคกล่าวอ้าง แต่เราไม่โต้ตอบเพราะเป็นสิทธิที่ท่านจะมีความเห็นและวิจารณ์ได้ แต่บางครั้งต้องให้ความเป็นธรรมกับพวกเรา เราทำตามกฎหมายมาตลอด แต่เมื่อถูกกล่าวอ้างเช่นนี้คิดว่าไม่เป็นธรรมจึงต้องเรียกร้องในส่วนนี้”

เมื่อถามว่าในส่วนการแบ่งเขตท้องถิ่นขณะนี้แล้วเสร็จทั้ง อบจ.และเทศบาลใช่หรือไม่ นายปกรณ์กล่าวว่า อบจ.เสร็จตั้งแต่เดือนเมษายน 63 พร้อมดำเนินการทั้งหมด ส่วนเทศบาล ถ้ารวมการพิจารณาของ กกต.ในวันนี้จะเหลือไม่เกิน 4 จังหวัด ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะเสร็จทั้งหมด ส่วนการอบรมเจ้าหน้าที่ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 28 กำหนดให้อบรมก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 20 วัน สมมุติว่า กกต.กำหนดให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้นในเดือนธันวาคม 63 เดือนพฤศจิกายน มีเวลาอบรมเจ้าหน้าที่มากพอ อย่างเลือกตั้ง ส.ส.สุมทรปราการ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา เราจัดอบรมกรรมการประจำหน่วยและผู้เกี่ยวข้องก่อนวันเลือกตั้งเพียงแค่ 10 วัน เพื่อให้เข้าใจขั้นตอนในการปฏิบัติ ส่วนจะเลือกตั้งท้องถิ่นรูปแบบใดก่อนเป็นเรื่องที่กฎหมายกำหนดให้รัฐบาลแจ้งให้ กกต.ทราบ แต่สำหรับ กกต.ขณะนี้เราพร้อมตลอด

นายปกรณ์ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า อยากฝากไปยังรัฐสภา ถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญขอให้แก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ กกต. เพราะรัฐสภาเป็นผู้บัญญัติกฎหมาย ประสงค์และอยากให้การเลือกตั้งสุจริตและเป็นธรรมอย่างไรขอให้บัญญัติให้ชัดเจน เช่น ในเรื่องแบ่งเขต อยากให้เป็นธรรมอย่างไร อยากให้จำนวนประชากรใกล้เคียงกันอย่างไร ขอให้บัญญัติให้ชัดเจน รูปแบบบัตรเลือกตั้งอยากให้เป็นอย่างไรให้เขียนในกฎหมายมาเลย ปัญหาบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่มาหลังเริ่มนับคะแนน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 114 กำหนดห้ามนับและให้ถือเป็นบัตรเสีย กกต.ไม่ได้เปิดดู เพราะกฎหมายให้นับ แต่ถ้าจะให้มีการนับยินดีปฏิบัติตามขอให้กำหนดเป็นกฎหมาย

Advertisement

การประกาศผลการเลือกตั้งตามมาตรา 127 ที่กำหนดให้ กกต.มีเวลาพิจารณา 60 วัน และต้องประกาศให้ได้ร้อยละ 95 ของจำนวน ส.ส.ทั้งระบบที่มี ท่านอยากแก้ไขให้เป็นอย่างไร บัญญัติมาเลย เพราะบางจังหวัดมี ส.ส.คนเดียว หน่วยเลือกตั้งมีไม่มาก เลือกตั้งแล้ววันรุ่งขึ้นสามารถประกาศเลย แต่ก็ติดกฎหมายมาตรานี้ ไม่สามารถประกาศได้ นี่คือหลักการต้องแก้ไข ที่สำคัญที่สุดการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อตามมาตรา 128 และมาตรา 129 ต้องการอย่างไรบัญญัติให้ชัดเจนจะได้ไม่เป็นข้ออ้างของหลายฝ่ายว่ามีหลายสูตร

“นักคณิตศาสตร์บอกว่าอย่างนี้เป็นธรรม นักการเมืองบอกว่าอย่างนี้เป็นธรรม แต่ กกต.เห็นว่าความเป็นธรรมนั้นต้องเป็นไปตามกฎหมาย เราพร้อมทำตามกฎหมายท่านประสงค์อย่างไร บัญญัติให้ชัดเจนจะได้ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป นี่คือประโยชน์ของบ้านเมือง มีหลายเรื่องราวที่เราได้รับผลกระทบแต่เราไม่โต้ตอบ เรายอมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนำไปปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น แต่อยากให้ท่านทุกคนยึดคำสอนของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ที่พูดไว้ชัดเจนว่า ที่บ้านเมืองมีปัญหาและวุ่นวายเพราะมีแต่คนพูด มีแต่คนแสดงความคิดเห็นโดยศึกษาระเบียบและกฎหมายว่าบัญญัติไว้ว่าอย่างไร ถ้าท่านศึกษาข้อกฎหมายบัญญัติไว้อย่างไร ปัญหาเหล่านี้จะน้อยลงมาก”

เมื่อถามว่า แสดงว่าการพิจารณาของ กกต.ที่ผ่านมา เช่น เรื่องการแบ่งเขต มีแรงบีบจากฝ่ายการเมืองใช่หรือไม่ นายปกรณ์กล่าวว่า ไม่มี เราทำงานโดยอิสระ แต่กฎหมายบางส่วนไม่ชัดเจนทำให้เกิดปัญหาในการตีความในสังคม ซึ่งเรารวบรวมและศึกษาความเห็นที่มีแล้วมาทำให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นธรรมที่สุด

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงของนายปกรณ์ และนายฐิติเชฎฐ์ เป็นการแถลงด่วนโดยไม่มีการแจ้งวาระล่วงหน้า ทั้งนี้ เนื่องจากทั้ง 2 คน ไม่พอใจการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยชี้แจงต่อสภาโดยอ้างความไม่พร้อมของ กกต.จึงต้องมีการเลื่อนการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งระหว่างการแถลงข่าวนายปกรณ์ก็ได้นำเอกสารของกระทรวงมหาดไทยฉบับลงวันที่ 9 กรกฎาคม ที่นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย มีถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ระนอง และลพบุรี เพื่อให้เร่งแบ่งเขตเลือกตั้งมายืนยันและแจกต่อสื่อมวลชนว่าความไม่พร้อมเกิดจากกระทรวงมหาดไทยไม่ใช่ กกต.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image