นิสิตจุฬาฯ อ่านบทกวี ‘จิตร ภูมิศักดิ์’ ชู 3 นิ้วร้องเพลงชาติ ยกเสื้อแดง สู้เพื่อปชต.

นิสิตจุฬาฯ อ่านบทกวี ‘จิตร ภูมิศักดิ์’ ชู 3 นิ้วร้องเพลงชาติ ยกเสื้อแดง สู้เพื่อปชต.

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขตปทุมวัน กรุงเทพ กลุ่ม ‘Spring Movement’ นัดหมายจัดกิจกรรม ‘เสาหลักจะหักเผด็จการ’ เวลา 16.00 น. บริเวณลานพระบรมรูป 2 รัชกาล โดยย้ายจากจุดนัดหมายเดิม คือบริเวณสนามจุ๊บหลังเกิดปัญหาติดขัดด้านการใช้สถานที่ โดยผู้จัดยืนยันเดินหน้ากิจกรรมแม้ทางมหาวิทยาลัยไม่อนุญาต กระทั่งสโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และคณาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ออกแถลงการณ์ให้ทางมหาวิทยาลัยทบทวนจุดยืน

ต่อมา เวลาตั้งแต่ 15.30 น. กระทั่ง 16.15 น. ฝนตกลงมาอย่างหนัก ผู้จัดประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่าอยู่ระหว่างการประสานงานหาสถานที่ร่มจัดกิจกรรม ทั้งยังระบุว่า เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว แต่ลืมฝ่ายเทวสัมพันธ์ อีกทั้งระบุว่า ได้ประสานกับทีมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้มาปักตะไคร้แล้ว

ด้านบรรยากาศบริเวณโถงชั้นล่างของอาคารมหาจักรีสิรินธร คณะอักษรศาสตร์ มีการตั้งโต๊ะล่า 50,000 รายชื่อเสนอแก้รัฐธรรมนูญ 60 โดยโครงการอินเทอร์เนตเพิ่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ ซึ่งมีนิสิตร่วมลงชื่ออย่างต่อเนื่อง

ต่อมา เวลา 16.45 น. ประกาศย้ายสถานที่จัดมายังอาคารมหาจักรีสิรินธร คณะอักษรศาสตร์

Advertisement

เวลา 16.55 น. ผู้จัดเดินทางมาถึงอาคารมหาจักรีสิรินธร ประกาศขอใช้สถานที่ต่อนิสิตที่กำลังนั่งอ่านหนังสือและทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งนิสิตให้ความร่วมมือโดยช่วยกันย้ายโต๊ะเก้าอี้ จากนั้นผู้จัดเริ่มตั้งเวทีบริเวณโถงดังกล่าวอย่างรวดเร็วท่ามกลางนิสิต และกลุ่มนักเรียนมัธยมที่รอเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก บางส่วนชูป้าย ไม่ลืม วิชิต ชัย อมรกุล นิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาฯ

ตัวแทนนิสิตจุฬา กลุ่ม ‘เสรีเทยพลัส’ กล่าวว่า เรามารวมกันวันนี้ เพิ่อเป็นกระบอกเสียง คนที่เคยบอกว่าจะเป็นกระบอกเสียงให้เรา สุดท้ายไม่เคยพูด คนขอเรียกร้องให้รัฐหยุดคุกคามประชาชน ไม่เช่นนั้น คนจะออกมามากกว่านี้ แล้ววันนั้นท่านจะเป็นฝ่ายแพ้

จากนั้น นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ นำป้ายผ้ามาร่วมงาน มีข้อความว่า ‘ทวงคืนจรรยาบรรณสื่อ’ ที่ไม่นำเสนอข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา และสื่อที่สนับสนุนเผด็จการ

Advertisement

ต่อมา มีการผลัดขึ้นปราศรัยอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ปราศรัยหญิงรายหนึ่งเป็นเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ดัง ขึ้นเวทีกล่าวในประเด็น ‘ความเป็นอภิสิทธิ์ชนของจุฬาฯ ในสังคมไทย’ มีเนื้อหาตั้งคำถามถึงท่าทีของมหาวิทยาลัยที่ไม่อนุญาตให้จัดกิจกรรมทั้งที่ก่อนหน้านี้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยให้สัมภาษณ์สื่อว่า จุฬาฯ ให้อิสระในการแสดงความเห็นทางการเมือง และพร้อมช่วยเหลือ แต่วันนี้เวลา 12.00 น. กลับออกประกาศที่มีทิศทางตรงกันข้าม โดยระบุว่านิสิตที่ฝ่าฝืนจัดกิจกรรมจะถูกดำเนินการทางวินัย ตนขอขอบคุณคณาจารย์คณะนิติศาสตร์ ที่ออกแถลงการณ์ขอให้มหาวิทยาลัยทบทวน มหาวิทยาลัยควรเป็นสถานที่ประทะทางความคิดไม่ใช่ลอยแพนิสิต นักศึกษา ที่ผ่านมาในยุค คสช. มีคนถูกคุกคาม 593 คน โดน พรบ.คอมพิวเตอร์ 197 คน พรบ.ชุมนุม 28 คน ลี้ภัยทางการเมือง 104 คน บางคนโดนอุ้ม ดังเช่น นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์

“นิสิตจุฬาฯ มีเครดิต แต่จะมีประโยชน์อะไร ถ้าไม่ใช่ในการขับเคลื่อนสังคม ถ้ายังเคลมว่าเป็นเสาหลัก สิ่งที่ต้องทำคือค้ำจุนประชาธิปไตย ไม่ใช่เสาหักที่ผดุงเผด็จการ” ผู้ปราศรัยกล่าว

ต่อมา นิสิตชาย ตัวแทนกลุ่ม ‘สปริง มูฟเม้นต์’ ปราศรัยว่า 7 ปีก่อน มีการรวมตัวไปเวที กปปส. นายกสภาฯ จุฬาฯ กล่าวขอบคุณจุฬาฯ ที่รักษาประชาธิปไตย ยืนเคียงข้างความถูกต้อง เมื่อวันก่อนผู้บริหารบอกว่า จุฬาฯ จะปกป้องนิสิตในการแสดงออกทางการเมือง แต่วันนี้กลับไม่ให้จัดกิจกรรม บอกว่ากระชั้นชิดเกินไป ซึ่งไม่สมเหตุสมผล ตนขอสื่อสารไปยังผู้บริหารว่า จุฬาฯ ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่สถานที่ซึ่งคนจะถือครองแจกจ่ายให้ใครมาเอาผลประโยชน์ จุฬาฯ ควรเปิดรับความเห็นต่าง ซึ่งทำให้เกิดการถกเถียงเพื่อหาทางออกในสังคม

“ภารกิจหลักของจุฬาฯ คือตลาดวิชา เป็นเวทีที่นำความรู้คู่ประชาธิปไตย เพื่อให้สังคมพัฒนาไปในทางที่ดี แต่วันนี้กลับปิดกั้น ยับยั้ง กดดันให้ออกไปชุมนุมนอกมหาวิทยาลัยซึ่งไม่ใช่ปราการสุดท้ายที่ปลอดภัย โดยอ้างว่า กิจกรรมต้องวิชาการ ซึ่งจริงๆแล้ววิชาการต้องเชื่อมโยงสังคมจึงจะถูกต้อง” ตัวแทนกลุ่ม ‘สปริง มูฟเม้นต์’ กล่าว จากนั้น มีการกล่าวยกย่องการต่อสู้ของกลุ่มเสื้อแดง โดยผู้ชุมนุมต่างพากันปรบมือให้เสื้อแดงที่ส่วนหนึ่งยังถูกจำคุกในเรือนจำ

ต่อมา นิสิตหญิงแอดมินเพจ ‘คณะจุฬา’ ขึ้นปราศรัย โดยมีการอ่านเนื้อเพลงของ จิตร ภูมิศักดิ์ อดีตนิสิตคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งต่อมาคือส่วนหนึ่งของเพลง ‘แสงดาวแห่งศรัทธา’ ที่ว่า

‘ขอเยาะเย้ย ทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
คนยังคง ยืนเด่นโดยท้าทาย
แม้นผืนฟ้า มืดดับเดือนลับละลาย
ดาวยังพราย ศรัทธาเย้ยฟ้าดิน
ดาวยังพราย อยู่จนฟ้ารุ่งราง’

นอกจากนี้ ยังหยิบยกประเด็นผลประโยชน์ต่างๆของจุฬาฯ รวมถึงการรื้อย้าย ‘ศาลเจ้าแม่ทับทิม’ สะพานเหลือง ซึ่งถูกวิจารณ์จากสังคมอย่างมาก จากนั้น นิสิตรายดังกล่าว พร้อมด้วยผู้ชุมนุมตะโกนว่า ‘ไม่เอาห้าง’ ขึ้นพร้อมกันหลายครั้ง รวมถึงการสร้างคอนโดมีเนียมในขณะที่หอพักนิสิตไม่เพียงพอ

จากนั้น เวลา 18.00 น. มีการร่วมร้องเพลงชาติ โดยมีการชู 3 นิ้ว แล้วตะโกน ‘เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ’ อย่างกึกก้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image