09.00 INDEX มาตรการ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่าทีเข้มต่อ อาทิตย์ 16 สิงหาคม
ไม่ว่าการจับกุม นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ไม่ว่าการสกัดขัดขวางมิให้มีการชุมนุมโดยฝ่ายบริหารของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหิดล
เป็นไปตาม “ยุทธศาสตร์”ใหญ่อย่างเดียวกันกับการจับกุม นายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก ก่อนหน้านี้
เป้าหมายคือวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม
ดำเนินไปบนพื้นฐานแห่งกลยุทธ์ “ป้องปราม”ในทางการเมือง สร้างความหวาดกลัว สร้างความระส่ำระสายในทางความคิดและในทางการเมือง
กระทำทุกวิถีทางเพื่อดึงมิให้การชุมนุมใหญ่ของเยาวชน/ประชาชนปลดแอก ที่กำหนดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม มิให้เกิดขึ้นได้ในทางเป็นจริง
หรือหากเยาวชน/ประชาชนปลดแอกสามารถบรรลุเป้าหมายได้ตามที่ประกาศเอาไว้อย่างน้อยจำนวนก็ไม่มาก
หากน้อยกว่าเมื่อวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคมก็ถือว่าได้ชัยชนะ
ต้องยอมรับว่าการชุมนุมเมื่อตอนค่ำของวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมาดำเนินไปในลักษณะอันเป็นการริเริ่ม เป็นการจุดประกายใน ทางความคิดอันแหลมคมยิ่งในทางการเมือง
เนื่องจากเป็นการชุมนุมที่มีประชาชนและเยาวชนเข้าร่วมด้วยจำนวนที่มากที่สุดหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
นั่นก็คือทะยานจาก “เรือนสิบ”ทะลุไปถึง “เรือนพัน” เป็นครั้งแรก
นั่นก็คือสามารถทะลายรั้วกั้นและออกจากบาทวิถีไปอยู่บนถนนราชดำเนินบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
นั่นก็คือได้เกิดปรากฏการณ์ใกล้เคียงนี้ตามมา
ไม่ว่าจะเป็นที่เชียงใหม่ เชียงราย ไม่ว่าจะเป็นที่ปัตตานี นครศรี ธรรมราช ไม่ว่าจะเป็นที่นครปฐม พระนครศรีอยุธยา สระแก้ว ชลบุรี ไม่ว่าจะเป็นที่อุบลราชธานี มหาสารคาม ร้อยเอ็ด
และเมื่อจุดที่ธรรมศาสตร์ปริมาณก็ทะลุ “เรือนหมื่น”
พัฒนาการในเชิง “ความคิด” พัฒนาการในเชิง “การเมือง”เช่นนี้เองที่สร้างความหวาดกลัวให้กับรัฐบาลเป็นอย่างสูง
ปมเงื่อนอยู่ตรงที่แม้ด้านหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะแสดงออกเหมือนกับเปิดใจกว้างพร้อมจะรับฟังความคิด
แต่ด้านหนึ่งก็ดำเนินมาตรการสกัดขัดขวางอย่างรุนแรง
เริ่มตั้งแต่การรุกประชิดตัวบุคคลซึ่งคิดว่าเป็นแกนนำและรุนแรงถึงกับจับกุมเพื่อนำไปสู่การคุมขัง
เป็น 2 ด้านอันดำเนินไปอย่างย้อนแย้งยิ่งในทางการเมือง
