‘กรรมกร’ โอดคนอดตายเพราะ รธน 60 ปลุกพลัง ‘แรงงาน’ ร่วมปลดแอกสร้างอนาคต’

‘กรรมกร’ โอดคนอดตายเพราะ รธน 60 ปลุกพลัง ‘แรงงาน’ ร่วมปลดแอกสร้างอนาคต’

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 สิงหาคม ที่ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถ.ราชดำเนิน เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน จัดเสวนา “ทำไมขบวนการแรงงานต้องร่วมปลดแอก” เพื่อประกาศเจตนารมณ์สนับสนุนขบวนการนักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องเพื่อสิทธิ เสรีภาพ ลดช่องว่างทางชนชั้น ภายใต้ 3 ข้อเรียกร้อง คือ 1.หยุดคุกคามประชาชน 2.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ 3. ยุบสภา โดยเพิ่มเติมคือ 4.รัฐสวัสดิการ

ในตอนหนึ่ง นายเซีย จำปาทอง ตัวแทนกรรมกรสิ่งทอ กล่าวถึงผลกระทบของแรงงาน นับตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญ 60

นายเซียกล่าวว่า เราต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพราะคือกฎหมายสูงสุดของประเทศ ก่อนจะมีรัฐธรรมนูญฉบับนี้
เราต้องเข้าร่วมปลดแอก เพราะจะเห็นการเรียกร้องของ นักเรียน นักศึกษาจำนวนมาก นับแต่ 18 กรกฎาคม กระจายไปหลายจังหวัด โดยมี 3 ข้อเรียกร้อง คือ หยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ ยุบสภา

“ปัญหาที่กระทบเราโดยตรง คือ รัฐธรรมนูญ หากปล่อยให้นักศึกษาเคลื่อนไหวเฉพาะส่วน คงไม่ประสบความสำเร็จแน่ การร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา เรามีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหน รัฐธรรมนูญปราบโกง ปราบจริงหรือไม่ และเรื่องการสืบทอดอำนาจของ คสช. มีจริงหรือไม่ ที่ว่าไม่มีการสืบทอดอำนาจ

Advertisement

มีกลุ่มประชาชนส่วนหนึ่งออกมาเคลื่อนไหวกับ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และ กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.), สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
(กปปส.)

โดยเคลื่อนไหวเรียกร้อง 1.กระบวนการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ เสรี และเป็นธรรม 2.การป้องกันและปรบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น 3.ประชาธิปไตยของประชาชน ด้วยการทำให้อำนาจทางการเมืองอยู่ในมือประชาชนอย่างแท้จริง 4.ความเหลื่อมล้ำในสังคม ควรปฏิรูปให้เกิดการเข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน 5.โครงสร้างตำรวจ ให้เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ รักษากฎหมาย ดูแลประชาชน คือข้อเรียกร้องในขณะนั้น โดยใช้วิธีชุมนุม และกดดันหลายที่ให้ร่วมกิจกรรม อ้างเรื่องการทุจริต ไม่เป็นธรรม เลือกปฏิบัติ ไปที่การบินไทย พยาบาล แพทย์ก็ร่วม ด้วยการชูประเด็นเรื่องคอร์รัปชั่น แต่พอหลังๆ ทหารคอร์รัปชั่นซื้ออาวุธ ซื้อนู่นนี่ ก็ไม่เห็นขยับ แปลกใจเหมือนกัน ซึ่งมีคนร่วมบริจาคเงินเป็นกระสอบ หลังสิ้นสุดการชุมนุมมุน สังคมถามว่า เงินไปไหน

“วันที่ 9 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวถาม พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็น ผบ.ทบ อยู่ขณะนั้น ว่าจะมีการปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่ เขาบอกไม่ทำ เพราะจะทำให้ประเทศล้าหลังได้ แต่ 22 พฤษภา 2557 เชิญพรรคการเมืองไปคุยกัน เป็นวันประวัติศาสตร์อย่างหนึ่ง ที่ทหารใช้กลไกเล่ห์เหลี่ยมให้นักการเมืองไปรวมตัวกันและทำการยึดอำนาจ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้า และประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว ฉบับปี 2557

Advertisement

จากนั้นตั้ง กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ โดยมี อ.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ถูกคว่ำ อ.บวรศักดิ์ให้สัมภาษณ์เหตุผลว่า ‘เขาอยากอยู่ยาว’ ได้รัฐธรรมนูญปราบโกง ร่างโดย อ.มีชัย ฤชุพันธุ์ ‘ปราบโกง’ หรือสกัดกั้นอำนาจประชาชนกันแน่ มีการจับกุมประชาชน นักศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพียงแค่คนกลุ่มนี้นำเสนออีกด้านของรัฐธรรมนูญ ว่ามีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ตอนนี้คดียังอยู่ที่ศาล ถือเป็นการคุกคาม บางคนการใช้ชีวิตลำบากมากขึ้น รัฐธรรมนูญไม่ได้สร้างให้มีการแสดงความคิดเห็น ถูกจับขึ้นศาลทหาร พยายามใช้กลไก โดยลงพื้นที่โฆษณาว่า ดี แต่ส่วนหนึ่งที่คิดต่าง ถูกจับดำเนินคดี ช่วงนั้น 212 คน ที่คิดต่างเท่ากับผิด เราไม่มีส่วนร่วมร่างแต่อย่างใด” นายเซียกล่าว

ทั้งนี้ นายเซียยังได้ยกตัวอย่างผลกระทบช่วงวิกฤตโควิด โดยนำภาพชาวบ้านกว่า 1,000 คนในเมืองพัทยา ที่ฝ่าเคอร์ฟิวส์ไปรับอาหาร ตั้งแต่เวลา 01.00 น. ซึ่งเริ่มแจกเวลา 09.00 น. โดยระบุว่า เพราะคนรอการเยียวยาจากรัฐไม่ไหว คนกลัวอดตายมากกว่าการจับกุมคุมขัง

“ที่อ่านแล้วน้ำตาซึมคือข่าวน้องปลายฝน วาดรูป พล.อ.ประยุทธ์ และเขียนจดหมายทิ้งไว้ ก่อนฆ่าตัวตาย ตัดพ้อรัฐบาลใจร้าย ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกิน น้องปลายฝนทำงานวันละ 12 ชั่วโมง เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คือ 8 ชั่วโมง ก็ยังไม่พอเลี้ยงครอบครัว

ยังไม่นับ ผู้พิพากษา คณากร เพียรชนะ ยิงตัวตาย บอกว่าถูกแทรกแซง เราเห็นมนสังคมอีกหลายกรณี คดีบอส อยู่วิทยา หลุดไป ไม่มีการฟ้อง คดีเสือดำก็เช่นกัน คดีต่างกันระหว่างคนรวยกับคนจน เช่นนี้ เราต้องแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าคนมีตังค์เขาจะโค้งคำนับ กลับมาดูเพื่อนเรา อานนท์ นำภา โดนลากอย่างนี้ มาตรฐานของสังคมไทยต่างกัน ปราบโกงจริงหรือ นาฬิกายืมเพื่อน อุทยานราชภักดิ์ ที่มีคนส่วนหนึ่งพยายามเข้าไปตรวจสอบการสร้าง แต่ถูกจับติดคุก ทนายอานนท์ และ จ่านิว ถ้าเป็นโครงการของรัฐ ประชาชนจะไม่สามารถตรวจสอบได้ เหล่านี้ เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลอำนาจที่ไม่สนใจประชาชน จนวันนี้บางคนยังไม่ได้รับเงินเยียวยา” นายเซียกล่าว และว่า

“นพ.ทวีศิลป์ บอกว่า ปัญหาการฆ่าตัวตายช่วงนี้ไม่ผิดจากความคาดหมาย เฮงซวยไหม เป็นกลไกอย่างหนึ่งของรัฐบาลเผด็จการที่สืบทอดอำนาจ และพูดจาแบบนี้ ไม่มีใครเขาอยากไปชุมนุม เข้าแถวรอรับอาหารหรอก ถ้าเขามีอาหารเพียงพอจะกิน”

นายเซียกล่าวต่อว่า เรื่องสถานการณ์ตกงานสิ้นปีนี้ประมาณ 3.3 ล้านคน หากไม่สามาถแก้ไขปัญหาได้ คนจะตกงาน 7-8. ล้านคน จากข้อมูลของสภานายจ้างฯ ที่ออกมาแถลง แรงงานสิ่งทอ การ์เมนต์ต่ำสุดในรอบ 60 ปี และจะต่ำขึ้นเรื่อยๆ หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจก็ยังแย่งตำแหน่งกัน จีดีพี จะติดลบ 9.4 คืออนาคตที่จะเกิดขึ้น หากประเทศไม่สามารถสร้างมาตรฐานที่ดีได้

“ในการที่พวกเราจะเข้าร่วมปลดแอก บางคนบอกว่าอาจจะเป็นเรื่องอนาคตของน้องๆ ลูกหลาน ความจริงเป็นอนาคตของพวกเราทั้งหมด เรามาร่วมสร้างอนาคตของเราร่วมกัน จากการเข้าร่วมกับกลุ่มน้องๆ นักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหว เพราะดูแล้วรัฐบาลไม่สามารถพาประเทศไปข้างหน้าได้ มีแต่ฉุดรั้งให้ล้าหลังไปเรื่อยๆ ไม่เพียงแต่เราจะยากจนข้นแค้นเรื่อยๆ ไม่ต้องหวังค่าจ้างขั้นต่ำ 425 บาท

สิ่งที่สำคัญกับอนาคตของพวกเรา คือ รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกติกาสูงสุดที่จะกำหนดทิศทางของประเทศ เราต้องมีส่วนร่าง ประเด็นที่ไม่ถูกต้องก็แก้ไขให้ถูกต้อง แต่จะต้องเลือกตั้ง สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เหมือนปี 2540 ร่างรัฐธรรมนูญ และยุบสภา ก็จะมีคนส่วนหนึ่งคัดค้าน ซึ่งพวกเราเห็นแล้ว ไม่มีวันที่พวกเราจะไม่ชนะ สู้ พ่ายแพ้ สู้ใหม่ สู้ พ่ายแพ้ สู้ใหม่ แล้วเราจะได้ชัยมา” นายเซียกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image