ประชาชนปลดแอก จวก จนท.ถ้ำมอง สั่งรัฐหยุดคุกคาม ย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง 2 จุดยืน

‘ราชดำเนิน’ แน่น ‘ปชช.ปลดแอก’ ขำ จนท.ถ้ำมอง สั่งรัฐหยุดคุกคาม ย้ำ 3 ข้อ 2 จุดยืน

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ  คณะประชาชนปลดแอก จัดการชุมนุมใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 14.40 น. มวลชนเดินเท้าลงถนนราชดำเนินกลางเต็มพื้นที่ กลุ่มประชาชนปลดแอกตั้งเวทีเล็กบริเวณหัวมุมถนนหน้าสำนักงานใหญ่องค์การค้าของคุรุสภาเดิม ระหว่างเตรียมตั้งเวทีใหญ่ โดยเรียกร้อง 3 ข้อ 1.หยุดคุกคามประชาชน 2. ยุบสภา 3. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่

เวลา 15.00 น. มีการแสดงโดยศิลปิน ซึ่งมีการแจกกระดาษสีขาวให้ร่วมกันพับนกเรียกร้องประชาธิปไตย

Advertisement

จากนั้น เวลา 15.47 น. มวลชนเริ่มนั่งลงบนถนน แกนนำคณะประชาชนปลดแอกขึ้นกล่าวบนเวที ว่า คุณครูชวนนักเรียนมาเป่านกหวีด แต่ไม่ให้นักเรียน นักศึกษา ชุมนุม นอกจากนี้ยังกล่าวชมเชยดาราประชาธิปไตย เช่น ทราย เจริญปุระ และ มารีญา ว่าคือนางงามคนเดียวที่เหมาะสมกับตำแหน่ง และขอโทษพี่น้องเสื้อแดงที่เคยเข้าใจผิด คนบางคนพูดความจริงไม่เกิน 3 อาทิตย์โดนจับ คนบางคนชนคนตาย 8 ปี ไม่โดนจับ สื่อนำเสนออะไร ข่าวของพวกเราหายไปไหน คนรุ่นใหม่ในที่นี้คือคนที่จะไม่ยอมรับอำนาจเผด็จการอีกต่อไป เราอยู่ที่นี่ทุกคนเท่ากัน บนพื้นฐานสิทธิตามประชาธิปไตย ไม่มีใครเหนือใคร เราทุกคนเป็นประชาชนเจ้าของประเทศ

จากนั้นประชาชนชูสามนิ้ว พร้อมย้ำ 3 ข้อเรียกร้องคือ 1.หยุดคุกคามประชาชน 2.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ 3.ยุบสภ บน 2 จุดยืน ไม่เอารัฐประหาร และไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ โดยระบุว่า จะต่อสู้บนพื้นฐานสันติวิธี จะไม่มีการใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาด

เวลาประมาณ 16.20 น. น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษาเคียงข้าง ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (คนป.) หนึ่งในแกนนำ คณะประชาชนปลดแอก กล่าวว่า การที่เรามารวมกันตรงนี้ เพื่อ 3 ข้อเรียกร้อง และ 2 จุดยืน

Advertisement

“1.หยุดคุกคามประชาชน คุกคาม คือ การทำให้เกิดความกลัว หลังจากรัฐประหาร ปี 2557 รัฐบาบได้ทำการคุกคามประชาชนในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะคนที่ออกมาแสดงจุดยืนเห็นต่างทางการเมือง แค่ออกมาพูดเฉยๆ ก็คุกคาม เริ่มจากเบาๆ ก่อน ตามติดชีวิต กิจวัตรประจำวัน เป็นเจ้าหน้าที่แต่ทำตัวเหมือนพวกถ้ำมอง น่าขำ หนักกว่านี้คือการที่เจ้าหน้าที่รัฐไปเยี่ยมที่บ้านประหนึ่งญาติ แต่พฤติกรรมไม่ใช่ ไปเยี่ยมคนที่บ้านแล้วบอกว่าเราออกมาวิจารณ์การทำงานของรัฐมันผิด มันอันตราย จริงๆ จะอันตรายหรือไม่อยู่ที่รัฐ ไม่ใช่ประชาชน อย่าโยนให้ประชาชน

“หนักกว่านี้ สิ่งที่เรายอมรับไม่ได้เลย คือ มีการอุ้มไปทำร้ายร้างกาย อุ้มหาย อุ้มฆ่า อาจพูดไม่ได้เต็มปากว่าเกิดจากรัฐ แต่รัฐเองไม่เคยให้ความกระจ่างเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ความเป็นธรรมอยู่ตรงไหน” น.ส.ภัสราวลีกล่าว

น.ส.ภัสราวลีกล่าวต่อว่า ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือการที่รัฐใช้กฎหมายเกินกว่าเหตุปราบประชาชนที่เห็นต่างทางการเมือง เช่น มาตรา 116 จำโทษสูงสุด 7 ปี เอามาใช้กับประชาชน การแจ้งข้อกล่าวหารุนแรงทำให้คนที่ออกมาพูดความจริงเสื่อมเสียความน่าเชื่อถือ คนมองว่าพวกเขาทำผิด ทั้งที่การพูดความจริง การวิพากษ์วิจารณ์รัฐไม่ใช่เรื่องผิด เมื่อรัฐไม่มีประสิทธิภาพ มีสิทธิตำหนิติเตียน เพราะเงินเดือนมาจากภาษีพวกเรา ฉะนั้น เราจึงขอสั่งให้รัฐหยุดคุกคาม

น.ส.ภัสราวลีกล่าวว่า 2.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพราะสิ่งที่เป็นปัญหาอย่างมาก อย่างแรกที่ต้องจำกัดออกไปก่อน คือ ส.ว. หรือวุฒิสภา เพราะ ส.ว. นอกจากจะไม่ทำประโยชน์อะไรให้ประชาชนแล้ว ยังทำตัวเป็นเสี้ยนหนามกีดขวางประชาธิปไตย น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น “สอพลอ” มีหน้าที่แค่คงอำนาจของคณะรัฐประหาร ไม่เป็นประโยชน์ใดๆ กับ ประชาชน

“ดังนั้น ส.ว.250 ต้องออกไปก่อน หรือไม่มี ส.ว.เลยยิ่งดี ที่ต้องเอา ส.ว.ออกไปก่อนจึงจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ได้ ที่อยากได้รัฐธรรมนูญใหม่หนักหนา เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มคนที่กุมอำนาจ ซึ่งประโยชน์ไม่เคยตกถึงประชาชน 6 ปีที่ ประชาชนต้องทนอยู่กับเศรษฐกิจที่ยากลำบาก ต้องร่างให้อำนาจและประโยชน์สูงสุดเพื่อประชาชนเท่านั้น เราต้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ได้ยินชัดไหมรัฐบาล

“3.ยุบสภา รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ต้องทำการยุบสภาหลังมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชน แต่รัฐบาลอย่าริอาจข้ามขั้นตอน ก่อนที่จะชิงยุบสภา อย่างน้อยต้องมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อให้เราได้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ก่อน ถ้าชิงยุบสภาก่อนคงจะโกรธมาก เพราะไม่มีความรับผิดชอบ ฉะนั้น รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หมดเวลาท่านแล้ว ปล่อยให้ประชาชนบริหารประเทศกันเอง ไม่ใช่หน้าที่ทหารอีกต่อไป” น.ส.ภัสราวลีกล่าว

น.ส.ภัสราวลีกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังอยู่บน 2 จุดยืน คือ 1.เราไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ คือรัฐบาลที่เกิดจากการรวมตัวของ ส.ส.ทุกพรรค โดยไม่มีฝ่ายค้าน ถ้าในการบริหารประเทศไม่มีคนคอยถ่วงดุลอำนาจ อย่างนี้จะเรียกว่าประชาธิปไตยได้อย่างไร เข้าข่ายรัฐบาลเผด็จการอยู่ดี ถ้าจะบอกว่ารัฐบาลแห่งชาติคือคำตอบ เราไม่เชื่อ เพราะ ส.ส.สวนใหญ่ในสภาก็ไม่น่าไว้วางใจให้บริหารประเทศ เราต้องการเลือกตั้งใหม่ ส.ส.ใหม่ที่มาจากประชาชนโดยแท้จริง อย่าชุบมือเปิด

น.ส.ภัสราวลีกล่าวว่า อีกจุดยืนคือ เราไม่เอารัฐประหาร คือการที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งใช้กำลังเข้ายึดอำนาจรัฐ เมื่อ 6 ที่แล้ว มีคนกลุ่มหนึ่ง นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ก่อนการรัฐประหาร โดยอ้างว่าจะเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศ ขอเวลาแป๊บเดียวเท่านั้น เหนื่อยใจ ขอเวลาแป๊บเดียวแต่ผ่านมา 6 ปีแล้ว เราเข็ดแล้ว เข็ดมากๆ กับการรัฐประหาร เป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ กล้าดีอย่างไรมายึดอำนาจรัฐ เป็นทหารก็อยู่ส่วนทหาร อย่ามาบริหารประเทศ

“การรัฐประหารในทุกๆ ครั้ง ไม่เคยส่งผลดีให้ประเทศ มีแต่จะหยุดความเจริญของประเทศ เศรษฐกิจต้องหยุด ไม่มีการเติบโต ปัญหาปากท้องประชาชนก็ต้องหยุด เพราะคนกลุ่มหนึ่งพยายามที่จะรวบอำนาจ ผลประโยชน์ ไว้กับตน คนพวกนี้หลงระเริงในอำนาจมานานมากไปแล้ว พวกเขาหลงระเริงในอำนาจเงินตราที่ความจริงควรจะเป็นของประชาชนทุกคน เขากล้ายึดอำนาจ แล้วยังทำตัวสุขสบายบนภาษีของพวกเรา เรารับไม่ได้ ฉะนั้น เราไม่เอารัฐประหารอีกต่อไป” น.ส.ภัสราวลีกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image