เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “Sofi Walam” ได้เผยแพร่คลิป โดยระบุว่า เมื่อคืนเพื่อนขึ้นไปปราศัยถึงความอัดอั้นตันใจ ของพี่น้องประชาชนปาตานีที่บางกอก ว่าปัญหาปาตานีไม่ใช่ปัญหาความมั่นคง แต่เป็นปัญหาทางการเมือง และวันนี้ทหารอำนาจนิยมเผด็จการ มาตั้งค่ายในมหาลัย
#ราชภัฏยะลา
#มหาลัยไมใช่ค่ายทหาร
#มหาลัยคือพื้นที่กลางทางวิชาการ
#หยุดสมยอมต่ออำนาจเผด็จการ
และ ที่นี่เป็นสถานศึกษาที่นิยามว่าเป็นคลังปัญญาแห่งชายแดนใต้ แต่ทำเหมื่อนที่นี่เป็นค่ายทหารเที่ยวลากสุนัขตระเวนทั้วมหาลัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและร่วมแชร์ กว่า 100 ครั้ง
ทั้งนี้ ประชาชนจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้ร่วมขึ้นปราศรัยที่งาน “ขีดเส้นตายไล่เผด็จการ” #โบกพัดซัดเผด็จการ ที่จัดขึ้นโดย คณะประชาชนปลดแอก (Free People) เมื่อ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ
โดย เวลา 21.10 น. ผู้ปราศรัยใช้ชื่อว่า “บังแทน” ขึ้นเวที กล่าวถึงเหตุผลสำคัญที่ตัดสินใจเดินทางมาจากบ้าน เพราะไม่สามารถที่จะทนเห็นนักเรียน นักศึกษาต่อสู้โดยลำพังอีกแล้ว
สำหรับเนื้อหาที่ปราศรัยมีใจความ ดังนี้
มีพรรคพวกเพื่อนฝูงพวกเราเยอะแยะมากมาย ที่คือคำตอบสำหรับพวกเขาในวันนี้ ผมไม่แน่ใจว่า วันนี้มีใครถูกบังคับมา ถูกล้างสมองมาหรือไม่ (ประชาชนตะโกน “ไม่มี”) แต่ผมเชื่อว่าที่อยู่หลังอนุสาวรีย์ถูกบังคับแน่นอน
เวลาประเมิน เขาจะประเมินคนที่ชุมนุม 3 กลุ่ม คือ 1.คนที่ตั้งใจมาจากบ้านด้วยความมุ่งมัน 2.กลุ่มที่มาสังเกตุการณ์อยู่ระหว่างการชั่งน้ำหนัก และ 3.กลุ่มที่ไม่คิดแบบเรา หน้าที่ของพวกเราหลังจากนี้ คือ จะต้องทำให้คนกลุ่มที่ 2 และ 3 มาเชื่อเรา
“ผมมีเรื่องจากพื้นที่มาเล่า เป็นสิ่งที่เราจะต้องเรียนรู้ร่วมกัน การคุกคามข่มขู่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่นี่ 1 ชั่วโมงที่แล้ว เพื่อนของเรามีตำรวจไปหาที่บ้านเพราะค้านเรื่องการสร้างเขื่อน เพราะวันพรุ่งนี้ชาวพัทลุง อ.ป่าบอน จะไป ศาลากลางจังหวัดพัทลุง กรมชลประทานไม่เคยเปลี่ยนนิสัย เรื่องข้ออ้างในการสร้างเขื่อน”
“ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ถูกคุมโดยทหารแล้ว ซึ่งเราเข้าใจกันว่า เข้ามาดูเรื่องความขัดแย้ง แต่ที่ทำคือ โครงการ ใช้ 3 พื้นที่ใน อ.จะนะ เพื่อเป็นโรงงานขนาดใหญ่ คนที่คุมคือรองนายกฯ ที่มีนาฬิกาเยอะๆ เขาใช้กลไกทหาร ทำทุกอย่างเพื่อกดขี่พวกเราที่ภาคใต้ ยิ่งกว่านั้นจับมือกับกลุ่มทุนจีน และองค์มนตรี พยายามตัดแผ่นดินภาคใต้เพื่อเชื่อมคลองขนาดใหญ่ สองฝั่งทะเล ไม่ได้เกิดเฉพาะที่นี่ สะเทือนไปทั้งแผ่นดิน ไม่เคยเกิดโครงการขนาดใหญ่ที่รุกลงไปถึงชึมชุมชนขนาดนี้ ทำอย่างไรให้คนเป็นพวกเรามากที่สุด เพราะเราไม่เพียงสู้กับอำนาจ แต่สู้กับความคิดความเชื่อของคนด้วย เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คือภารกิจของคนที่เฝ้ามอง เกาะรั้ว วิพากษ์เด็กไปวันๆ ขอให้เขาออกมาช่วยนักศึกษาในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วย”
“คนที่นี่ได้พิสูจน์อะไรบางอย่างให้เห็น สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ในนามนักพัฒนาเราเห็นด้วยอย่างยิ่งกับข้อเสนอ 10 ข้อ นี่คือรากฐานที่แท้จริงของสังคมไทย แม้ไม่รู้จักทนายอานนท์ นำภา เป็นการส่วนตัว แต่นี่คือปรากฎการณ์สำคัญของสังคมไทย ปัญหาบ้านผมอาจดูเล็กน้อย แต่ใหญ่สำหรับพวกผมที่เกิดจากอำนาจของรัฐชุดนี้ เราต้องการแค่การจัดสมดุลอำนาจใหม่ เชื่อว่าเวทีนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของประเทศ” บังแทนกล่าว
จากนั้น ตัวแทน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขึ้นปราศรัย โดยกล่าวคำประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา และว่า ขอความสันติจงมีแก่ทุกท่าน
“ผมมาจากปาตานี ‘ปาตานี’ ก็เหมือนที่คนเชียงใหม่เรียกตนเองว่าเป็น ‘คนล้านนา’ การอยู่ภาคใต้ภายใต้การปกครองพิเศษ ของกฎอัยการศึก, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯลฯ ทุกเช้าตื่นนอนขึ้มาต้องถามตัวเองเสมอว่า ผมมีเสรีภาพจริงๆ หรือ เสรีภาพที่มนุษย์คนหนึ่งพึงมีในฐานะพลเมือง รู้สึกถึงกรงขังขนาดใหญ่ หากเป็นนกที่มีเสรีภาพก็บินได้แค่ในกรงหรือ ตื่นเช้ามาเห็นตำรวจยืนถือปืนแถวบ้าน ตลาด มัสยิด ทุกที่ เวลาเดินทางโดนถ่ายบัตรประชาชน ตอนจะโทรศัพท์หาใครสักคน ก็กังวลว่าจะมีคนดักฟังไหม หากอยากใช้โทรศัพท์ต้องส่งรูปให้ทหาร ตกดึกอยากนอนหลับให้สบายใจ ก็กังวลว่าตี 2 ตี 3 จะมีคนมาเชิญตัวไปค่ายทหาร ที่สำคัญกล้องวงจรปิดจากภาษีพวกเราใช้ไม่ได้สักตัว อำนาจของทหารเข้าไปอยู่ทุกช่วงชีวิต ทุกพื้นที่ ไม่สามาถหนีพ้นอำนาจทหารได้”
“ทุกท่าน คสช.บอกว่า หากมีการเลือกตั้ง จะไม่มี คสช. กลับไปดูคำสั่งที่ 51/60 โอนอำนาจไปที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สามารถตีความได้ว่าอะไรคือเรื่องความมั่นคง ไม่แน่การชุมนุมอาจตีความไปเรื่องความมั่นคงก็ได้ ปัญหาชายแดนใต้ไม่ใช่ความมั่นคง แต่คือการเมือง หมื่นล้าน เทไปทุกปี และตายทุกปี ถ้าเป็นความมั่นคงจริง งบหมื่นกว่าล้าน ตอนนี้ก็คงเห็นสันติภาพ-สันติสุขไปแล้ว
“เรื่องที่เกิดที่นั่นไม่ได้เกิดกับผมคนเดียว แม้จะซ่อนทุกที่ก็เจอ ไอโอ (IO) จากภาษีประชาชน ที่พูดไม่มีเรื่องไหนไม่เกี่ยวกับความเป็นประชาธิปไตย เปลี่ยน กอ.รมน.ให้เป็นทหารพิทักษ์ประชาชน ไม่ใช่เป็นโจทย์เหมือนทุกวันนี้
“เขาไม่เคยต้องคิดมาก ว่าจะช่วยพี่น้องที่ติดอยู่ต่างประเทศ รักษาอากาศที่บริสุทธิ์ อาหารปลอดภัย เอาโรงงานนายทุนไปตั้งที่นั่น ผมต้องการให้พี่น้องเราอีกหลายคนที่ไม่ได้มาร่วม จงออกมา เราเลือกได้ว่าะจะส่งต่ออนาคตแบบไหนให้ลูกหลาน ไม่ต้อง เซฟ ทนายอานนท์ ไม่ต้องเซฟเพนกวิน อีกต่อไป เขาไม่เคยเชื่อว่าประชาชนจะชนะ แต่เราขอแค่ชัยชนะครั้งเดียว ครั้งเดียวจะเป็นชัยชนะของเราตลอดไป” ตัวแทน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าว
เมื่อคืนเพื่อนเราขึ้นไปปราศัยถึงความอัดอั้นตันใจ ของพี่น้องประชาชนปาตานีที่บางกอก ว่าปัญหาปาตานีไม่ใช่ปัญหาความมั่นคง…
โพสต์โดย Sofi Walam เมื่อ วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2020
