เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 31 กรกฎาคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ “Jatuporn Prompan – จตุพร พรหมพันธุ์” ว่า เหลือเวลาอีก 1 สัปดาห์ที่ประชาชนจะใช้สิทธิลงประชามติด้วยการมอบอนาคตที่ดีให้กับประเทศไทยและลูกหลานของเรา ซึ่งขอย้ำว่า ไม่รับร่างรัฐร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง และหากผ่านตนจะไม่ลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นส.ส. วันนี้นักการเมืองไม่มีใครกล้าแถลงรับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะไม่เช่นนั้นการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในอนาคตพวกเขาต้องแบกคำว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เข้าไปด้วย ส่วนพรรคที่ใกล้ชิดกับคสช.ก็ไม่กล้าแถลงว่ารับร่างฯ สำหรับพรรคการเมืองหลายพรรคก็ประกาสชัดว่าไม่รับร่างฯ ส่วนพื้นที่ภาคใต้ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับความนิยมมายาวนาน ซึ่งภาคใต้ก็แบ่งเป็นสองฝั่งคือฝั่งกปปส.และประชาธิปัตย์ ซึ่งเดิมทีวิตกว่าช่องว่างในพื้นที่ภาคใต้จะไปกระทบปัญหากับพื้นที่ช่องว่างในภาคอื่นๆ ขณะนี้ทุกภาคล้วนชัดเจนและชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศจุดยืน ขณะที่หน่วยงานราชการบางหน่วยก็กล้าบอกว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญชัดเจน วันนี้เกิดอะไรกันแน่ จะมีประชามติวันที่ 7 หรือไม่ เพราะอย่างไรก็แพ้ชัดเจน ไม่ว่าจะโกงอย่างไรก็เกิดปัญหา
“วันนี้ (31 ก.ค.) ได้ไปเยี่ยมน.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีตส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยและจะไปทุกวันจนกว่าจะได้รับอิสรภาพ ซึ่งจะครบ 7 วันที่ได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ น.ส.ทัศนีย์เป็นของร้อนทางการเมือง ยิ่งขังไว้นานเท่าไรยิ่งประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้คนออกมาใช้สิทธิในการทำประชามติมากเท่านั้น” นายจตุพรกล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า ก่อนถึงวันที่ 7 สิงหาคมหากมีเหตุการณ์อะไร พร้อมจะสื่อสารทางเฟซบุ๊กไลฟ์มากกว่า 1 ครั้งตามความจำเป็นเพื่อสร้างประชาธิปไตยและทำในสิ่งที่ถูกต้องให้บ้านเมือง และวันที่ 2 สิงหาคมนี้พวกตนทั้ง 19 คนจะนัดหมายไปมอบตัวที่กองปราม ข้อหาชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขณะที่เปิดศูนย์ปราบโกง อย่างไรก็ตามขอให้ผู้มีอำนาจยืนยันว่าวันที่ 7 สิงหาคมยังมีประชามติอยู่ ซึ่งวันนี้จะเป็นโจทย์การเมืองอธิบายทุกเรื่องราวเสียงสวรรค์ของประชาชนจะเป็นคำตอบให้คสช.ว่าท้ายที่สุดท่านจะเลือกชะตากรรมอย่างไร
