มีเรือดำน้ำให้ประเทศอื่นเกรงใจ ‘สุพล’ ยันไม่กระทบ ปชช. เหตุผ่อนจ่ายเป็นงวด งบผูกพันหลายปี
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2563 นายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ICT รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ชี้แจงถึงกรณีที่โหวตอนุมัติตัดสินออกเสียงเห็นชอบ โครงการจัดหาเรือดำน้ำ 2 ลำ มูลค่ารวมทั้งหมด 22,500 ล้านบาท ว่า เหตุผลที่โหวตผ่านคือ 1.โครงการจัดหาเรือดำน้ำ ลำที่ 2 และ 3 เป็นโครงการต่อเนื่อง ซึ่งได้อนุมัติเห็นชอบโครงการ จำนวน 3 ลำนี้ ไว้แล้วเมื่อปีงบประมาณ พ.ศ.2560 และ ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2558 ให้กองทัพเรือดำเนินการจัดหาเรือดำน้ำในรูปแบบของรัฐบาลต่อรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่โครงการอนุมัติใหม่แต่อย่างใด แต่เป็นโครงการผูกพันเดิมซึ่งได้รับอนุมัติไปแล้ว เพียงแต่เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ทางกองทัพเรือได้คืนงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำส่วนนี้ให้รัฐบาลนำไปช่วยสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 และขอความเห็นใจ จากทางการจีน เลื่อนมาดำเนินการในปีงบประมาณ 2564 นี้แทน
“คณะอนุกรรมาธิการได้มีมติ เพื่อที่จะยืนยันให้กองทัพเรือได้ปฏิบัติตามข้อตกลงเดิมที่ทำไว้กับทางการจีนเท่านั้น เพื่อรักษาไว้ซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ” นายสุพลกล่าว และว่า 2.ด้านการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากปัจจุบันจีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย เป็นตลาดส่งออกและนำเข้ามากที่สุดของไทย ทางการค้าขาย เศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างกัน และเรายังจำเป็นต้องส่งออกสินค้า ไปยังต่างประเทศ เพื่อรักษาไว้ซึ่งเศรษฐกิจ การค้า ภาพรวมของประเทศ ให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้น การรักษาสัญญาและข้อตกลงระหว่างกัน จึงมีความจำเป็นมากในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้
และ 3.ด้านความมั่นคงของประเทศ การจัดซื้อ เรือดำน้ำนั้น ต้องใช้เวลาต่อเรือถึง 6 ปี กว่าจะส่งมอบ และไม่ได้จ่ายเงินก้อน 22,500 ล้านบาทในทีเดียว หากแต่เป็นการผ่อนจ่ายเป็นงวด ตามงบประมาณแต่ละปีของกองทัพเรือเอง ซึ่งกองทัพเรือยอมตัดลดงบประมาณของตัวเองในด้านอื่นๆ เพื่อเอามาจัดซื้อเรือดำน้ำ ไว้คานอำนาจต่อรอง ในน่านน้ำทะเลเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีข้อพิพาทกันอยู่ในปัจจุบัน ก็เพื่อดูแลรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของประเทศ ทั้งแท่นขุดเจาะน้ำมัน ทั้งดูแลเรือบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศ และด้านความมั่นคงทางทะเลในทุกมิติ ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านของเราเอง ก็มีเรือดำน้ำกัน ทั้งเมียนมา มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ เป็นต้น
นายสุพลกล่าวว่า การมีเรือดำน้ำหมายถึงอำนาจต่อรองผลประโยชน์ทางทะเลของประเทศ และรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของประเทศ ให้มีความมั่นคงและยั่งยืน การมีไว้ซึ่งเรือดำน้ำก็เพื่อให้ประเทศอื่นเกรงใจ ซึ่งหมายถึงว่ามีไว้เพื่อไม่ต้องรบ หากไม่มี ก็อาจจะต้องรบเพราะไม่มีคนเกรงใจ และการจัดซื้อก็ไม่ได้มีผลต่องบประมาณที่จะดูแลพี่น้องประชาชน เนื่องจากเป็นงบของกองทัพเรือเองและเป็นงบผูกพัน จ่ายเป็นงวดๆ ใช้เวลาหลายปี ไม่ได้ใช้เงินก้อนในการจัดซื้อ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณส่วนใหญ่ ดูแลพี่น้องประชาชนผ่านโครงการของรัฐบาลในด้านต่างๆ ดังที่ผ่านมา