“บิ๊กตู่”ลั่นพร้อม ให้อภัยทุกคน แต่กฎหมายต้องทำหน้าที่ “ยัน” ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์แบบหน้ามือเป็นหลังมือได้ “แช่ง” แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ ใครที่ไม่อยู่ในแผ่นดินนี้แล้วทำลายประเทศ ไม่มีวันอยู่เย็นเป็นสุข
เวลา 15.00 น. วันที่ 25 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณทางหลวงหมายเลข 3249 กม. 3+146 ตอนควบคุม 0100 ตอนเขาไร่ยา-แพร่งขาหยั่ง ตำบลแสลง อ.เมือง จ.จันทบุรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการนำร่องการนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน (Kick off) ณ ทางหลวงหมายเลข 3249 กม. 3+146 ตอนควบคุม 0100 ตอนเขาไร่ยา-แพร่งขาหยั่ง ตำบลแสลง อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี
โดยช่วงหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับว่า วันนี้ตนไม่ได้มาคนเดียวแต่ได้ลงพื้นที่และมาประชุม ครม. กับคณะรัฐมนตรีใหม่ภายหลังที่มีการปรับ ครม. ทั้งนี้เข้าใจดีว่าทุกคนเข้าใจรัฐบาลว่ากำลังทำอะไรอยู่ การทำงานของรัฐบาลได้ทำในหลายเรื่องโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 และดีใจที่เห็นทุกคนยังสวมหน้ากากอนามัยเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราได้ทำสำเร็จแล้วในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทุกคนไม่ต้องการให้กลับมาอีกในประเทศไทย แต่ยืนยันว่า แม้จะกลับมาใหม่ก็สามารถแก้ไขได้เพราะไทยมีระบบการคัดกรอง การรักษาพยาบาล มีสถานที่และโรงพยาบาล รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆพร้อมที่จะรับสถานการณ์ในขีดความสามารถสูงในระดับที่หนึ่งของภูมิภาค ขอให้ทุกคนภูมิใจความร่วมมือของประชาชนกับรัฐบาล
“อะไรที่ทำแล้วเกิดประโยชน์ถือเป็นกำลังใจ ผมเองก็มีกำลังใจของผมที่ได้รับความร่วมมือจากประชาชน ครม.และข้าราชการ ซึ่งถือเป็นกำลังใจในการทำงานในหน้าที่เพราะผมมีแรงศรัทธาในการทำงาน ขอทุกคนร่วมมือกันต่อไปเพื่อรักษาสถานการณ์ในวันนี้ให้ได้ ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำโดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนนอกจากการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้วก็ต้องเร่งในเรื่องของเศรษฐกิจ รวมทั้งการแก้ปัญหาเดิมๆ ที่เคยเกิดขึ้นในการบริหารราชการแผ่นดินที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรที่จะได้มาในระยะเวลาสั้นๆ “นายกฯกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อัตลักษณ์ความเป็นไทยคือการพูดคุย ความประนีประนอม เพื่อที่จะลดความขัดแย้งหากเรามัวแต่ขัดแย้งเราก็จะกลับไปที่เก่าเหมือนเดิมทุกประการ เรามีรอยประวัติศาสตร์อยู่แล้ว จึงอยากฝากทุกคนว่าวันนี้เรากำลังเดินหน้าประเทศในทุกมิติ ความร่วมมือและการแก้ปัญหาที่ผ่านมาถือเป็นสิ่งที่ดีของประเทศไทย จึงขอร้องว่าอย่าไปทำลาย ทุกคนจำเป็นจะต้องมีภูมิต้านทาน มีเหตุและผลและความพอประมาณ มีภูมิคุ้มกันที่ดีด้วยความรู้และคุณธรรม เราทุกคนมีหน้าที่และจะต้องทำหน้าที่ต่อไปเพราะนี่คือแผ่นดินของเรา เป็นแผ่นดินของคนไทยทุกคน
ไม่ว่าจะเชื้อชาติ หรือศาสนาใดหรือมาจากที่ไหนก็ตาม เราต้องรักแผ่นดินผืนนี้ สิ่งเหล่านี้เป็นเจตนารมย์ที่มุ่งมั่นของตนและทุกคนในฐานะที่เป็นคนไทยของประเทศ เราต้องสานต่อสืบสานและต่อยอดในสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีต่อไป ทุกปัญหาจะแก้ไขได้ด้วยความเข้าใจ ค่อยๆพูดจาเจรจาหารือกัน ทุกคนต้องเข้าใจว่าภาระของรัฐบาลมีมากมาย มีหลายกลุ่มหลายฝ่าย การทำงานต่างๆของรัฐบาลจำเป็นต้องทำให้ถูกต้องตามกฏหมาย อาจจะต้องถูกใจบ้างแต่จะให้ถูกใจทั้งหมดก็คงลำบาก ไม่ใช่ว่าตนจะไม่อยากทำให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพูดมาถึงตรงนี้นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนยกมือขึ้น พร้อมพูดตาม 3 ครั้งว่า รวมไทยสร้างชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไรในประเทศทั่วโลกก็จะรับรู้ วันนี้ทุกคนชื่นชมไทยในเรื่องการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ส่วนเรื่องอื่นก็ไม่รู้เหมือนกัน ในสิ่งที่เกิดในปัจจุบัน ถ้ามันเกิดขึ้นและรุนแรงมากขึ้น การลงทุนต่างๆก็คงจะยุติทั้งหมด ถามว่าแล้วมันจะอยู่กันอย่างไร สังคมไทยขัดแย้งกันมามาก จะต้องเดินหลบกันไปมากันแบบนี้หรือ
“ผมพร้อมให้อภัยกับทุกคน และเชื่อว่าทุกคนก็พร้อมให้อภัยผม นี่คือสังคมความเป็นคนไทย กฎหมายทุกฉบับมีไว้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ความเท่าเทียมในเรื่องของโอกาส กฎหมายทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยในสังคม เมื่อเราปฏิบัติตามทุกคนก็จะเข้าถึงโอกาส วันนี้เราต้องการรอยยิ้ม เมืองไทยมี 3 อย่างคือรอยยิ้มที่สดใส รอยยิ้มแห่งมิตรไมตรี มีอาหารที่อร่อยและมีธรรมชาติที่สวยงาม ถือเป็นอัตลักษณ์ความเป็นไทย เรามีสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นแกนหลักของประเทศ บรรพบุรุษของเราเสียสละเลือดเนื้อประวัติศาสตร์มีอยู่แล้ว เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ เราจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของประเทศ จากหน้ามือเป็นหลังมือมันทำไม่ได้ และผมคิดว่าคนไทยทั้งประเทศคงไม่ยอมเช่นกัน
ขอฝากไว้ว่าการพูดจาอะไรต่างๆผ่านสื่อโซเชียล คนฟังต้องมีภูมิคุ้มกัน ต้องดูว่าคนที่พูดหวังผลอะไร ต้องการให้เราไม่มีความสุขหรือเปล่า หรือถ้าจะให้ดีก็ไม่ต้องอ่านหรืออย่าไปโพสต์เผยแพร่ต่อ ในส่วนของรัฐบาลจำเป็นต้องฟังไม่ว่าจะจากคนรุ่นใหม่ รุ่นเก่า รุ่นพ่อแม่ ฟังจากคนทุกกลุ่ม ไม่ใช่เราจะไปฟังหรือไปใช้กฎหมาย วันนี้กฎหมายอยู่เฉยๆ แต่ถ้าทำผิดกฏหมายกฏหมายก็ต้องทำหน้าที่ ผมไม่จำเป็นต้องไปสั่งใครทั้งสิ้น ผมใช้มาตรการทางกฎหมายที่ระมัดระวัง ที่สุด พยายามไม่ให้เกิดผลกระทบ แต่ไม่ต้องการให้ใครมาบิดเบือนไปใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง คนไทยทั้งประเทศต้องรักษาประเทศไทยไว้ให้ได้ แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์
ขอให้จำคำพูดผมไว้ใครที่ไม่อยู่ในแผ่นดินนี้แล้วทำลายประเทศ ไม่มีวันอยู่เย็นเป็นสุข ผมไม่ได้สร้างความเกลียดชังกับใคร แต่หลายคนไปสร้างความเกลียดชังให้กับประเทศของตัวเอง ทั้งที่เกิดในแผ่นดินนี้พ่อแม่ก็เกิดที่นี่ ไม่เข้าใจว่าจิตใจทำด้วยอะไร วันนี้ผมยินดีที่จะพูดคุยร่วมมือกับทุกฝ่าย วันนี้ก็ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับเด็กนักเรียน ก็เข้าใจกันดี หลายอย่างมีความเห็นตรงกัน วันนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ พรรคฝ่ายค้านผมพร้อมพูดคุย ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ไม่ใช่สิ่งที่เป็นความขัดแย้งแล้วไปกันไม่ได้ เราต้องหาวิธีการที่จะเดินหน้าประเทศโดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ เวลาที่เศรษฐกิจแย่ แล้วหากใครมาใช้
โอกาสนี้โจมตีทำให้บ้านเมืองวุ่นวายถือเป็นการทำลายทุกอย่างของเราให้พังพินาศ แล้วใครจะทำให้พวกท่าน
ขอถามหน่อย หลายคนพูดถึงแต่ปัจจุบันเพียงอย่างเดียวไม่พูดถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นลืมไปแล้วหรือว่าเคยเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย ผมไม่ได้ติติงว่าจะรักชอบใครเรื่องนี้เราไม่ว่ากันอยู่แล้วแต่สิ่งที่ต้องทบทวน ว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย เกิดขึ้นโดยใคร และกฎหมายทำหน้าที่อย่างไร ขอชี้นำให้คิดกันแบบนี้ ผมพร้อมให้อภัยกับทุกคน แต่กดหมายไม่ให้อภัยเพราะเป็นเรื่องของกฎหมายมีขั้นตอนกระบวนการ เรามีอำนาจสามฝ่ายอยู่แล้วซึ่งผมไปก้าวล่วงไม่ได้ แต่มักถูกก้าวล่วงเสมอ จนทำให้รัฐบาลบริหารราชการยากและติดขัดเกือบทุกอย่าง การแก้ปัญหาของรัฐบาลอาจจะถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง แต่เป็นการเคารพหลักการของประชาธิปไตย โดยฟังเสียงจากสองฝ่ายเสมอไม่ใช่ฝั่งเพียงข้างใดข้างหนึ่งแล้วเกลียดกันไปมาผมไม่ได้ต้องการแบบนี้ สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้เศรษฐกิจจะต้องเดินหน้าและผ่อนคลายให้ได้”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
