จับตาศึก”เฟซบุ๊ก-รบ.ไทย”เมื่อแพลตฟอร์มยักษ์ลั่นสู้คดี ไม่บล็อกเพจร้อนตามคำสั่ง

จับตาศึก”เฟซบุ๊ก-รบ.ไทย”เมื่อแพลตฟอร์มยักษ์ลั่นสู้คดี ไม่บล็อกเพจร้อนตามคำสั่ง

วันที่ 26 ส.ค. ความขัดแย้งระหว่าง “เฟซบุ๊ก” กับรัฐบาลไทย จะบานปลาย ขยายวงแค่ไหน เมื่อเครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดฮิตพร้อมสู้คดีที่ถูกฟ้องไม่ทำตามคำสั่งศาลที่ให้ลบเนื้อหาไม่เหมาะสม พร้อมขู่ว่าจะส่งผลต่อการลงทุนในประเทศไทย

ทั้งนี้ เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นรายงานเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า เฟซบุ๊ก เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยม เตรียมยื่นคำร้องค้านทางกฎหมายต่อรัฐบาลไทย แสดงความไม่เห็นด้วยต่อคำสั่งของรัฐบาลไทยที่ให้เฟซบุ๊กบล็อกการเข้าถึงเนื้อหาของกลุ่ม “รอยัลลิสต์ มาร์เก็ตเพลส”

โดยโฆษกของเฟซบุ๊ก แถลงการณ์ระบุว่า ถูกกดดันจากรัฐบาลไทยให้จำกัดการปราศัยทางการเมืองบางประเภทในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลไทยได้ขู่ที่จะดำเนินคดีทางอาญาต่อตัวแทนของเฟซบุ๊กในประเทศไทย ดังนั้นจึงเตรียมการที่จะโต้แย้งทางกฎหมายต่อข้อเรียกร้องครั้งนี้ ข้อเรียกร้องของรัฐบาลไทยถือเป็นข้อเรียกร้องรุนแรง และขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากล และยังส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงออก

“การดำเนินงานของ เฟซบุ๊ก มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องและรักษาไว้ซึ่งสิทธิต่างๆ ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทุกคน และขณะนี้เรากำลังเตรียมความพร้อมเพื่อโต้แย้งในข้อกฎหมายต่อข้อเรียกร้องครั้งนี้”แถลงการณ์เฟซบุ๊กระบุ

Advertisement

ขณะที่เฟซบุ๊ก ประเทศไทย ก็เผยแพร่แถลงการณ์ว่า “เฟซบุ๊กมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องและรักษาไว้ซึ่งสิทธิต่างๆ ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทุกคน ขณะนี้เรากำลังเตรียมความพร้อมเพื่อโต้แย้งในข้อกฎหมายต่อข้อเรียกร้องครั้งนี้ การแทรกแซงที่เกินขอบเขตของรัฐบาล กรณีนี้ยังถือเป็นการบั่นทอนความสามารถของเฟซบุ๊กในการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ตลอดถึงการดำเนินงานของสำนักงานในประเทศไทย การคุ้มครองดูแลพนักงานของบริษัทฯ และการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนโดยตรงต่อธุรกิจต่างๆ ที่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก”

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม แถลงถึงกรณีดังกล่าวหลังการประชุม ครม.สัญจร ที่จ.ระยอง เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมว่า กฎหมายประเทศไทยว่าอย่างไร ทุกคนก็ต้องเคารพกฎหมายของแต่ละประเทศเช่นกัน ทั้งหมดก็มาจากเพจกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารอยัลลิสต์ มาร์เก็ตเพลส ซึ่งก็รู้ว่าใครเป็นผู้ขับเคลื่อนเพจดังกล่าวก็คือนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ซึ่งคนเหล่านี้ทุกคนก็รู้อยู่ว่าเป็นอย่างไร แล้ววันนี้อยู่ที่ไหน แล้วเขารับผิดชอบความเสียหายกับประเทศชาติของเราหรือเปล่า

“การที่เราดำเนินการในเรื่องของเพจต่างๆ เหล่านี้ เป็นการดำเนินการตามกฏหมายไทย ไม่เคยไปใช้อำนาจที่เรียกว่าเผด็จการ ซึ่งผมไม่ได้มีแล้ว เป็นการขอคำสั่งศาล เราสามารถยืนยันได้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายไทย หากมีการฟ้องร้องเราก็ต้องใช้กฎหมายไทยไปสู้ในทางกฎหมายของเรา”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

Advertisement

ขณะที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้กำลังพิจารณาในข้อกฎหมายและกำลังดูที่มาที่ไป แต่ถ้าผู้โพสต์ทำผิดกฎหมายของรัฐบาลก็อยู่ในฐานะที่ใช้กฎหมายของไทยเข้ามาควบคุมให้เกิดความถูกต้อง

“เรื่องสิทธิเสรีภาพตามกฎหมายระหว่างประเทศถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่จะมาใช้ในกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศไทยได้หรือไม่นั้นต้องพิจารณาดูว่า เว็บนั้นมีคุณสมบัติอย่างไร นำเสนอเรื่องที่ดีที่เกิดขึ้นกับประชาชนหรือสังคมไทยได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ทำอย่างนั้นก็จะนำไปสู่ปัญหา”นายดอนกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ทางเฟซบุ๊ก อ้างว่าถือกฎหมายระหว่างประเทศเป็นหลัก นายดอน กล่าวว่า ตรงนี้ไม่เกี่ยว กรณีที่เกิดขึ้นเฟซบุ๊กมีการดำเนินการในประเทศไทย เราจึงมีวิธีการ สิทธิอำนาจ ในการเข้าไปพิจารณาเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแผ่นดินไทย

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ตนทำตามกฎหมายและจะดำเนินการตามกฎหมายของเราต่อไป หากมีกรณีเช่นนี้อีกเราก็จะฟ้องเช่นเดิม นี่เป็นครั้งแรกที่เราดำเนินการไปถึงเจ้าของแพลตฟอร์มที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลไทย เนื่องจากเราส่งคำสั่งศาลไปให้ลบเนื้อหาต่างๆ ที่ไม่ถูกต้องภายใน 15 วัน หากเขาไม่ดำเนินการเราก็ดำเนินการกับแพลตฟอร์ม ถือเป็นการกดดันและทำตามกฎหมาย แต่หากเขาลบให้เราก็ไม่ดำเนินคดีเขา

“ที่เราก็ทำตามกฎหมายไม่ได้รังแกใคร เพราะเป็นคำสั่งศาลทั้งสิ้น หากต่อไปมีอะไรผมก็จะดำเนินการตามคำสั่งศาลกับทุกแพลตฟอร์ม ไม่ใช่แต่เฉพาะเฟซบุ๊ก ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่เขาก็ลบให้”นายพุทธิ์พงษ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image