“บิ๊กตู่” ลั่นซื้อเรือดำน้ำไม่ได้ไว้ไปรบสู้กับใคร แต่เป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ป้องอธิปไตย เมิน ปชป.ขู่โหวตสวนมั่นใจคุยพรรคร่วมได้ ขออย่ายกเป็นประเด็น
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 ส.ค. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2563 (Prime Minister’s Export Award 2020) ถึงกรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำ โดยนายกฯ หัวเราะในลำคอก่อนตอบคำถามว่า นึกอยู่แล้วว่าต้องเรือดำน้ำ พร้อมกล่าวย้ำว่าเป็นเรื่องของกรรมาธิการที่กำลังพิจารณากันอยู่
เมื่อถามถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีมติไม่สนับสนุนการจัดซื้อเรือดำน้ำในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของพรรคเขาก็ว่ากันไป แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องของกรรมาธิการที่จะพิจารณาก็ไปดูว่าการพิจารณาเขาว่าอย่างไร ซึ่งมีอยู่หลายพรรคด้วยกัน ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็ได้มีการอธิบายไปหมดแล้วถึงเหตุผลและความจำเป็นทั้งหมด รวมถึงงบประมาณที่มาซึ่งเป็นของกองทัพเรือ และที่ผ่านมาก็ได้มีการแก้ปัญหาในปี 2563 ไว้ให้แล้วส่วนหนึ่ง แต่โครงการอะไรก็ตามที่มีความต่อเนื่องและจำเป็นหรือไม่อย่างไรก็ต้องมีการพิจารณา ส่วนจะได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการพิจารณา
“ส่วนตัวผมคิดว่าอะไรก็ตามที่ต้องสร้างความมั่นคงปลอดภัยของพวกเราไม่ใช่เพื่อใครทั้งสิ้น เพื่อประเทศไทย เพื่อคนไทย ทรัพยากรของชาติและทรัพยากรของแผ่นดินจะทำยังไง โลกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด มีความขัดแย้งอะไรต่างๆ เยอะไหม ไม่ได้มีไว้ไปรบ ไม่ได้มีไว้ไปสู้กับใคร แต่เป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ อธิปไตย และข้อสำคัญเป็นงบประมาณของกองทัพเรือเขา ซึ่งสุดแล้วแต่ว่าจะพิจารณากันอย่างไรก็แล้วกัน วันหน้าทุกคนก็ต้องรับผิดชอบด้วยกันทั้งหมด ถ้าเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า คงไม่ใช่เพราะผมคนเดียว เป็นเรื่องของมติของคนหลายคนและหลายพรรคในการก็สุดแล้วแต่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะกระทบความสัมพันธ์และการทำงานระหว่างพรรคร่วมหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า คิดว่าการทำงานระหว่างพรรคร่วมเป็นไปได้ด้วยดี จึงอย่ายกมาเป็นประเด็นและเป็นเรื่องของภายในที่ต้องบริหารกันเองให้ได้โดยพรรครัฐบาลก็ต้องคุยกัน แต่ก็สุดแล้วคนไม่ขอพูดตรงนี้
