ศาลสั่งจำคุก 2 ปี ‘เทพไท เสนพงศ์’ ยังไม่สิ้นสภาพ ส.ส.

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี "เทพไท เสนพงศ์" ยังไม่สิ้นสภาพ ส.ส.

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “เทพไท เสนพงศ์” ยังไม่สิ้นสภาพ ส.ส.

คดีความเก่าเมื่อ 7 ปีก่อนกำลังไล่ตาม ส.ส.ฝีปากจัดจ้าน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม คดีที่ นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายมาโนช เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 2 ในคดีอาญาฐานร่วมกันกระทำความผิด ในการทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557 ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น สั่งจำคุกนายเทพไทและน้องชายนายมาโนช คนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา

แม้นายเทพไทยและน้องชายจะได้รับการประกันตัวออกไปต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ แต่ยังมีคำถามว่าคำพิพากษาดังกล่าวมีผลให้นายเทพไทต้องพ้นจากสถานะความ ส.ส.หรือไม่

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายของรัฐบาล ให้ความเห็นข้อกฎหมายว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 ระบุถึงบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามใช้สิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยในวงเล็บ 6 ระบุว่าผู้ที่ต้องคำพิพากษาให้ถูกจำคุกและถูกคุมขังโดยหมายของศาล ซึ่งคาดว่ากรณีของนายเทพไทจะเข้ามาตรานี้ เพราะต้องคำพิพากษาให้ถูกจำคุกโดยไม่จำเป็นต้องรอให้คดีถึงที่สุด แต่หากได้ประกันตัวก็ไม่ถือว่าถูกคุมขัง และหมายความว่าไม่พ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.

นายวิษณุกล่าวว่า คำว่าถูกจำคุกโดยหมายศาล หมายถึงอยู่ในห้องขังโดยหมายของศาลแล้ว หากถูกจำคุกอยู่ในโรงพักก็ไม่ถือว่าถูกจำคุกโดยหมายของศาล

Advertisement

นายวิษณุยังเทียบเคียงกับกรณีของ นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้จำคุก โดยรอลงอาญาเป็นเวลา 1 ปี ว่า กรณีนางนาทีถือว่าถึงที่สุดแล้ว และเมื่อเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็ถือว่าพ้นจากการเป็นสมาชิกภาพ ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (10)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image