วันนี้ (1 สิงหาคม) นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์การลงประชามติขณะนี้ โดยระบุว่า ผมไม่เห็นด้วยกับกระบวนการทำงาน ของฝ่ายผู้มีอำนาจในปัจจุบัน และเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองบางส่วน ที่แสดงออกด้วยการใช้อำนาจพิเศษเข้าควบคุมและคุกคามกลุ่มผู้มีความเห็นต่างในการทำประชามติครั้งนี้
นอกจากนี้ การจับกุมคุมขังกลุ่มผู้มีความเห็นต่างเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้น และกำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ล้วนไม่เป็นผลดีอย่างยิ่งต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย และของรัฐบาลในปัจจุบัน ผมเชื่อว่า วิธีการที่ใจกว้าง เปิดกว้างให้ทุกฝ่ายได้แสดงออกซึ่งความเห็นของตนอย่างเต็มที่ จะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อประเทศมากกว่า ผู้มีอำนาจ… ควรแสดงความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา
มีความเป็นสุภาพบุรุษ ใจกว้าง ปฏิบัติต่อทุกฝ่าย อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม เป็นทางออกที่ดีที่สุด…ที่ควรปฏิบัติในขณะนี้
ผมขอเสนอให้ผู้มีอำนาจ ใช้สติ ไตร่ตรอง กระบวนการตัดสินใจของท่านเสียใหม่ ควรเปิดโอกาสให้ประชาชน ผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย และเป็นเจ้าของประเทศที่แท้จริง ได้ใช้วิจารณญาณอย่างเต็มที่ อย่าให้กลุ่มบุคคลหรือคณะบุคคลใด ที่แสวงหาอำนาจและการไต่เต้าทางการเมืองของตน มายุยงหรือผลักดัน จนทำให้กระบวนการตัดสินใจของท่าน ต้องถอยห่างออกจากความถูกต้อง
ผลประชามติ วันที่ 7 สิงหา กับอนาคตประเทศไทย ไม่ว่าผลประชามติวันที่ 7 สิงหา จะออกมาเช่นไรประเทศไทยก็จะต้องเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ภายในปี 2560 แน่นอน โดยไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น เพราะถือเป็นพันธะสัญญา ที่ผู้มีอำนาจที่กระทำรัฐประหารครั้งนี้ ได้ให้คำมั่นกับประชาชนชัดเจน ไม่อาจบิดพลิ้วเป็นอื่นได้ ถ้าร่างรัฐธรรมนูญ…ผ่าน
ก็จะต้องมีกระบวนการจัดทำกฎหมายลูกไปอีก 15-18 เดือน ซึ่งปลายปี 2560 ก็ควรต้องมีการเลือกตั้งตามสัญญาที่ให้ไว้ ถ้ารัฐธรรมนูญ…ไม่ผ่าน
การเลือกตั้งก็ต้องเกิดขึ้นในปี 2560 อยู่ดี ตามที่ผู้มีอำนาจได้ให้คำมั่นกับประชาชนไว้ ผมไม่เชื่อว่า “ผู้มีอำนาจ” จะกล้า “ผิดคำพูด” กับประชาชนตามที่ได้ให้คำมั่นไว้ ที่สำคัญ หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ผมเชื่อว่า รัฐธรรมนูญที่จะถูกนำมาใช้ใหม่ ต้องได้รัฐธรรมนูญที่ดีกว่าฉบับที่ลงประชามติแน่นอน เพราะประชาชนได้แสดงเจตนารมณ์ และความต้องการของตนแล้วว่า ไม่เอา รัฐธรรมนูญอย่างที่ร่างกันมา / ไม่เอารัฐธรรมนูญที่ไม่ยอมรับอำนาจประชาชน และไม่เคารพหลักการประชาธิปไตย 7 สิงหาออกไปใช้สิทธิ แสดงอำนาจของประชาชน
