การยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของ นายปรีดี ดาวฉาย 1 เป็นเรื่องโดยตรงระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกับนายกรัฐมนตรี
1 เป็นเรื่องโดยตรงระหว่าง นายปรีดี ดาวฉาย กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวกับพรรคก้าวไกล
แม้ว่าการลาออกจะเป็นเรื่องของสุขภาพที่เริ่มต้นจากมินิ สโตรก และทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นกระทั่งไม่สามารถจะดำรงตำ แหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
1 จะมีสาเหตุมาจากร่างกายของ นายปรีดี ดาวฉาย เอง และ 1 จะทวีความรุนแรงฉับพลันเนื่องจากปัจจัยอะไรเมื่อเข้าไปดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี
ทั้งหมดนั้นก็ยังเป็นเรื่องระหว่างรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องระหว่าง นายปรีดี ดาวฉาย กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ยังไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ยังไม่เกี่ยวกับพรรคก้าวไกล
สรุปแล้วผลสะเทือนนี้นอกจากตัวของ นายปรีดี ดาวฉาย เองแล้วก็สัมพันธ์กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้า รัฐบาลในฐานะของนายกรัฐมนตรี
ความละเอียดอ่อนของเรื่องทั้งหมดนี้ยังเป็นความรับผิดชอบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่นั่นเอง
ด้านหนึ่ง ทำให้สังคมเกิดนัยประหวัดถึงคนที่เข้ามารับผิดชอบในทีมเศรษฐกิจคนอื่นๆตั้งแต่ยุค ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล กระทั่งยุคของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
ด้านหนึ่ง ทำให้สังคมเกิดนัยประหวัดถึงการสรุปบทเรียนในทางการบริหารที่ว่า “แบ่งแยกแล้วปกครอง”ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
เพียงแต่ยุคก่อนเหยื่อของนโยบายการบริหารเป็น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุลและคณะ และต่อมาก็คือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์และคณะ
ล่าสุดย่อมเป็น นายปรีดี ดาวฉาย ซึ่งเพิ่งนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เพียง 20 กว่าวัน
กล่าวอย่างถึงที่สุดแล้ว ไม่ว่าปัญหาของ นายปรีดี ดาวฉาย มาจากเรื่องของสุขภาพ มาจากเรื่องการต้อนรับน้องใหม่จากรัฐมนตรีพรรค พลังประชารัฐ
แต่ทั้งหมดก็ฉายสะท้อนให้เห็นวิธีวิทยาในการบริหารจัดการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเด่นชัด
ในที่สุดก็มิอาจคุ้มครอง นายปรีดี ดาวฉาย ให้มั่นใจได้