ประมงแม่กลอง ชักธงรบเตรียม เดินเท้าบุกทำเนียบยื่นข้อเรียกร้อง ซัดถูกรบ.หลอกมาหลายครั้ง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 กันยายน ที่ห้องประชุมสหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม นายมงคล สุขเจริญคณา อดีตประธานคณะกรรมการสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ในฐานะนายกสมาคมประมงสมุทรสงคราม, นายกสมาคมเรือลากคู่สมุทรสงคราม ร่วมกับนายสมพร สมุทรโสภากุล ประธานสหกรณ์ประมงแม่กลอง เป็นประธานประชุมภาคประมง 3 องค์กร และ เจ้าของเรือประมง, ผู้ประกอบการแพปลา พ่อค้า แม่ค้าในตลาดปลาสหกรณ์ประมง คนงานแพปลา ตลาดปลา คนงานผู้ประกอบการ ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพประมงในจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อหารือถึงแนวทางการเคลื่อนไหวใหญ่ทั้ง 22 จังหวัด
ตามมติที่ประชุมใหญ่สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย และรับฟังปัญหาต่างๆ จากสมาชิกและจากชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปัญหา การทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และ ไร้การควบคุม หรือ IUU ที่ต้องการให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหา หลังที่ผ่านมารัฐบาลรับปากโปรยยาหอมหลายครั้ง แต่ชาวประมงก็ถูกหลอกมาโดยตลอด โดยที่ประชุมมีมติชักธงรบเตรียมพร้อมเดินเท้าเคลื่อนพลบุกทำเนียบรัฐบาล และประกาศขายเรือประมงคืนให้รัฐบาลด้วย
นายมงคลกล่าวว่าตามที่สมาคมการประมงแห่งประเทศไทยได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมง 11 เรื่อง เช่น แก้กฎหมาย พ.ร.ก.ประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยเร็ว, ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานประมง, หยุดการนำเข้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศโดยทันที, เพิ่มวันการทำประมง, การบังคับให้เรือประมงเติมน้ำมันด้วยเงินสดผ่านบัตรฟรีดการ์ด เป็นต้น ผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปยังนายกรัฐมนตรี และรอเวลา 7-10 วัน ตามข้อเรียกร้อง แต่หากไม่ได้รับคำตอบสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยมีมติให้มีการเคลื่อนไหวใหญ่ทั่วประเทศ โดยให้ชาวประมง 22 จังหวัด เดินขบวนเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพี่น้องชาวประมงในประเทศไทยที่ถูกรังแกโดยการออกกฎหมายกว่า 300 ฉบับ โดยไม่ได้รับฟังความคิดเห็น ทำให้ชาวประมงได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส จนต้องประกาศขายเรือให้กับรัฐบาล
นายมงคลกล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลโปรยยาหอมมาโดยตลอด แต่ก็ไม่แก้ปัญหาอย่างจริงจังเหมือนถูกหลอก ซึ่งครั้งนี้ชาวประมงจึงไม่ยอมแล้ว การเคลื่อนไหวครั้งนี้ ถือเป็นการรบครั้งสุดท้าย โดยการเดินเท้าจากจังหวัดสมุทรสงครามไปสมทบกับชาวประมงทั่วประเทศ เพื่อไปปักหลักพักค้างชุมนุมสาธารณะหน้าทำเนียบรัฐบาลอย่างน้อย 3 เดือน และจะเดินขบวนไปรัฐสภา เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติเข้ามาช่วยในการแก้ไขกฎหมายประมงด้วย ส่วนจะเป็นวันไหนจะกำหนดอีกครั้ง
สำหรับข้อเรียกร้องปัญหาความเดือดร้อนชาวประมง 11 ข้อที่ได้รับการแก้ไขประกอบด้วย
1.หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการประมงทั้งหมดหยุดออกกฎหมายกฎระเบียบประกาศคำสั่งต่างๆที่จะส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของชาวประมงมาเพิ่มเติมขึ้นอีก(ยกเว้นการออกกฎ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ที่ผ่อนคลายปัญหาให้กับชาวประมง) โดยจะรวบรวมกฎหมายกฎระเบียบประกาศคำสั่งต่างๆภายใน 30 วัน
2.จะปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย พ.ร.ก.ประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยเร่งด่วนในช่วง 45 วันนำเข้ามีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
3.รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณจำนวน 1 หมื่นล้านบาทในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ในการนำเรือประมงออกนอกระบบขณะนี้รอสภาเห็นชอบร่างพ.ร.บ. งบประมาณ พ.ศ. 2563
4.รัฐบาลเร่งรัดการช่วยเหลือชาวประมงในโครงการสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับชาวประมงโดยเร่งด่วน โดยจะนำเข้า ครม.ในเดือนธ.ค.นี้
5.คณะอนุกรรมการแรงงานจะพิจารณา มาตรา 83 แห่ง พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมงแล้ว รอนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการแรงงานชุดใหญ่ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นประธานในวันที่ 25 ธันวาคมนี้
6.แก้ไข กฎ ระเบียบต่างๆ ที่เป็นปัญหาในทางปฏิบัติของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานที่ส่งผลกระทบให้กับชาวประมงที่เป็นอยู่โดยเร็ว
7.กรมประมงยืนยันว่าไม่มีนโยบายให้ติด VMS ในเรือที่มีอัตราต่ำกว่า 30 ตันกรอสสำหรับเรือที่ติด VMS รุ่นเดิมแล้วให้สามารถใช้ต่อได้เพื่อไม่ให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
8.ตั้งคณะกรรมการพิจารณาการนำเข้าสัตว์น้ำทั้งระบบปกป้องสินค้าสัตว์น้ำภายในประเทศ และไม่กระทบผู้ประกอบการส่งออก
9.การเพิ่มวันทำการประมงนั้น กรมประมงกำลังรวบรวมวันที่เหลือจากเรือที่ไม่ได้ออกทำประมงระหว่างปีมาออกมาหาค่าเฉลี่ยเพื่อเพิ่มวันทำประมงให้ เบื้องต้นเรืออวนลากจะได้เพิ่ม 30 วันส่วนเรือทั่วไปจะไม่จำกัดวันทำการประมง
10.ยกเลิกบัตร ฟรีทการ์ด (Fleet Card) ซึ่งจะทำให้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวประมงและ
11.ตั้งคณะกรรมการพิจารณาช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องชาวประมงที่เดือดร้อนชุดใหม่ทันที
