บทนำ : ประเทศและร.ร.
การชุมนุมของกลุ่มนักเรียนที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ เมื่อบ่ายวันที่ 5 ก.ย. มีนักเรียนจากหลายโรงเรียนเข้าร่วม และมีจำนวนมาก กลุ่มผู้จัดงาน ประกอบด้วย นักเรียนมัธยมศึกษาและองค์กรนักเรียน 50 โรงเรียนทั่วประเทศ ในนามกลุ่มนักเรียนเลว กิจกรรมในการชุมนุม ประกอบด้วยเนื้อหาทางการเมือง โดยระบุถึงภูมิหลังทางการเมือง ที่มาของผู้บริหารกระทรวง และการปราศรัยเกี่ยวกับสภาพในโรงเรียน การเรียนการสอน และการปฏิรูปการศึกษา เรียกร้องสิทธินักเรียน ผ่าน 3 ข้อเรียกร้อง คือ 1.หยุดคุกคามนักเรียน 2.ยกเลิกกฎระเบียบล้าหลัง และ 3.ปฏิรูปการศึกษา และ 1 เงื่อนไข คือ หากทำไม่ได้ให้ลาออกจากตำแหน่ง
เนื้อหาของการปราศรัย เน้นหนักที่ความล้าหลังของระบบการศึกษาไทยและระบบโรงเรียน อาทิ ครูที่ด่าเด็กอย่างหยาบคาย เพราะแสดงออกทางการเมือง ครูที่กล้อนผมเด็กแล้วลอยนวล ละเมิดทางเพศนักเรียนแล้วยังได้สอนอยู่ นักเรียนถูกตำรวจไปเยี่ยมที่บ้าน เพราะไปร่วมเวทีทางการเมือง การห้ามเล่นสเก๊ตบอร์ดในโรงเรียน ห้ามไว้ผมยาว ให้เรียนออนไลน์ แต่ไม่มีความพร้อม โรงเรียนดีๆ ครูดีๆ อยู่ในกรุงเทพฯ สอนคอมพิวเตอร์ด้วยเนื้อหาที่ไม่ได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกับยุคสมัย การใช้ผลการเรียน ทำร้ายจิตใจนักเรียน จนต้องไปหาจิตแพทย์ ครูแนะแนว แบบทดสอบแนะแนวที่ล้าหลังมาก ระบบการศึกษาที่ให้เป็นขี้ข้าภายใต้อำนาจ สอนให้รับคำสั่งเดิมๆ ไม่มีสิทธิตั้งคำถาม โดยมีการแสดงเพลง ผู้ใหญ่เอ๋ยผู้ใหญ่ดี ที่แปลงเนื้อเพลงจากเด็กเอ๋ยเด็กดี ซึ่งมีการโจมตีว่า เป็นกรอบความคิดเดิมที่ใช้เรียกร้องเด็กๆ มาโดยตลอด
นอกจากม็อบนักเรียนเลวที่เคลื่อนไหวต่อเนื่อง เป็นที่ทราบกันดีว่า มีแฟลชม็อบของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่เรียกร้องทางการเมือง 3 ข้อ ได้แก่ เลิกคุกคามประชาชน แก้รัฐธรรมนูญ และยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ทำให้เห็นความเชื่อมโยงว่า สภาพทางการเมือง และสภาพโรงเรียน ไม่ได้แยกจากกัน เมื่อการเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย และเป็นเผด็จการ ไร้สิทธิเสียง ก็ย่อมทำให้โรงเรียน และสถาบันการศึกษา อยู่ภายใต้บรรยากาศไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นเผด็จการและไร้สิทธิไร้เสียงไปด้วย การแก้ไขปัญหา จึงต้องร่างกติกาใหม่ที่ให้ประชาธิปไตย และมีการปฏิรูปที่จริงจัง ไม่ใช่เป็นข้ออ้างทางการเมืองที่ทำให้ประเทศหยุดชะงักไปเกือบทุกมิติ
