‘จเด็จ’ ยันรัฐธรรมนูญไร้ปัญหา จี้ ส.ส.อยากแก้ต้องแสดงเหตุผล มาตราใดมีปัญหา ขอให้ใจเย็นๆ รออีกไม่นาน อำนาจ ส.ว.จะครบ 5 ปี เผยเป็นไปได้ ถกญัตติแก้ รธน. 24 ก.ย. ส.ว.อาจไม่รับหลักการ
เมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่รัฐสภา นายจเด็จ อินสว่าง ส.ว. กล่าวถึงท่าทีต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญของกลุ่ม 60 ส.ว. ว่าเหตุผลที่กลุ่ม 60 ส.ว.ออกมาแสดงท่าที เพราะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ว.ที่จะเห็นตรงกันหรือเห็นต่างกันบ้าง ซึ่งเป็นผลมาจากการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก และปัญหาความขัดแย้งในเรื่องต่างๆ ทำให้ ส.ว.ได้หารือกันเพื่อหาข้อสรุปว่าหากไม่แก้จะเกิดความวุ่นวายแบบฮ่องกงโมเดลขึ้นได้ แต่ก็ต้องดูว่าปัญหาที่เกิดขึ้นรวมทั้งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่ดีเป็นเพราะรัฐธรรมนูญไม่ดีจริงหรือไม่ ดังนั้น ต้องมาดูว่ารัฐธรรมนูญมาตราใดมีปัญหากันแน่
“ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้มีวาระซ่อนเร้น ที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีก็เลยจะมาแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่การแก้รัฐธรรมนูญยังมีเงื่อนไขตามมาตรา 256 ที่มี ส.ว.เข้ามามีส่วนร่วมโหวตด้วย และหากจะแก้มาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ ก็ต้องไปแก้ที่มาตรา 256 ก่อนเพราะสัมพันธ์กัน” นายจเด็จกล่าว
นายจเด็จกล่าวต่อว่า ยืนยันว่าส่วนตัวไม่เห็นว่ารัฐธรรมนูญจะมีปัญหาอะไรจนจำเป็นต้องแก้ไข ไม่ว่าจะมาตราใด แต่หากจะแก้ไข ส.ส.ต้องแสดงให้เห็นว่ามาตราใดทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง ส่วน ส.ว.ไม่ได้ปิดตายว่าต้องไม่แก้ แต่เห็นว่าการเมืองมีวาระซ่อนเร้น ดังนั้น ก็ขอให้ ส.ส.ชี้แจงมาว่ามาตราใดมีปัญหา อย่างมาตรา 272 กำหนดชัดเจนแล้วว่า ในวาระ 5 ปีเริ่มแรก ซึ่งเวลานี้ผ่านมา 3 ปีแล้ว รออีกไม่นาน ขอให้ใจเย็นๆ ส.ว.พร้อมอยู่ข้างประชาชน อย่าหลงใหลกับการทำร้ายสถาบัน หรือขุดเหง้าวัฒนธรรมอันดีงามด้วยการก้าวร้าว พูดจาหยาบคาย
“ทำไมเด็กๆ เหล่านี้ไม่คิดว่าถูกแทรกแซงจากสื่อต่างชาติ พี่น้องประชาชนกรุณาคิดด้วยความเป็นธรรม ต้องอยู่ด้วยเหตุผล บ้านเมืองถึงอยู่รอดได้ ผมยอมรับว่าห่วงการชุมนุมใหญ่ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 19 ก.ย. แต่ยืนยันว่าสมาชิกรัฐสภาจะรักษาแผ่นดินนี้” นายจเด็จกล่าว
นายจเด็จกล่าวด้วยว่า ในการพิจารณาญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันที่ 24 ก.ย.นี้ก็เป็นไปได้ที่ ส.ว.จะไม่เห็นชอบกับหลักการดังกล่าว แต่ต้องรอฟังการอภิปรายเหตุผลของ ส.ส.ก่อน หากมีเหตุผลที่เข้าใจได้ ก็อาจจะโหวตรับหลักการ ยืนยันว่า ไม่ได้ปิดตายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากมาตราใดเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนก็ขอให้บอกมา ส.ว.พร้อมที่จะแก้ไข แต่ต้องไม่ใช่การยกร่างรัฐธรรมนูญโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามี ส.ว.บางกลุ่มที่เห็นด้วยกับการตั้ง ส.ส.ร. แต่ไม่ได้มีจำนวนที่มากนัก ซึ่งก็เป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัว ส่วนกลุ่ม ส.ว.ที่เป็นทหารมีอยู่ประมาณ 120 คน วางตัวและเป็นผู้ใหญ่ที่ดี นั่งมองอยู่ และสงวนความเห็น แต่ตนก็ไม่กล้าคิดแทนว่าที่สุดแล้ว ส.ว.ที่เป็นทหารจะคิดอย่างไร
