09.00 INDEX ประสบการณ์ การปิดสวิตช์ ส.ว. บทเรียน ทรงคุณค่า ต่อก้าวไกล
ด้านหนึ่ง การที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล 17 คนถอนชื่อออกจากญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 272 ส่งผลให้ญัตตินี้ต้องล่มไปโดยอัตโนมัติ
กระนั้น ด้านหนึ่ง พรรคเพื่อไทยก็มีมติอย่างแข็งขันที่จะผลักดัน การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเฟส 2 เข้าไป
โดยในนั้นก็พุ่งเป้าเข้าไปยังมาตรา 272 ด้วย
หากดูจากภาพที่ปรากฏและพาดหัวข่าวด้วยความตื่นตระหนกของสื่อก็จะสัมผัสได้ในความล้มเหลวของพรรคก้าวไกลที่พยายามจะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 272
นั่นก็คือ ไม่สามารถ ‘ปิดสวิตช์. ส.ว.’ ได้ตามที่วางเป้าเอาไว้
กระนั้น พลันที่พรรคเพื่อไทยมีมติที่จะผลักดันการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเฟส 2 นอกเหนือจากที่เสนอไปแล้วโดยให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 272 รวมอยู่ด้วย
นี่ย่อมเท่ากับสนองเป้าหมายของพรรคก้าวไกลได้เป็นอย่างดี
จึงถูกต้องแล้วที่พรรคก้าวไกลจะแถลงแสดงความเห็นชอบและพร้อมหนุนเสริมข้อเสนออันมาจากพรรคเพื่อไทย
บทเรียนครั้งนี้กล่าวสำหรับพรรคก้าวไกลอาจเป็นบทเรียนที่หากจะมี การร่วมกับพรรคการเมืองบางพรรคต้องคำนึงถึงรากฐานความเป็นมาของพรรคนั้นให้ถ่องแท้รอบด้าน
ไม่ว่ากรณีพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่ากรณีพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่ากรณีพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ว่ากรณีพรรคขนาดเล็ก
พรรคเหล่านี้มีพันธะผูกพันเป็นส่วนหนึ่งของ “รัฐบาล”
จึงมิได้เป็นเรื่องแปลกที่จะได้สัมผัสท่าทีอันแข็งกร้าวจากพรรค พลังประชารัฐ จึงมิได้เป็นเรื่องแปลกที่จะมีการเคลื่อนไหวจากพรรค ร่วมรัฐบาลบาลบางพรรคที่สนองต่อพรรคพลังประชารัฐอย่างเชื่องๆ
กระนั้น เมื่อทอดตามองไปยังจังหวะก้าวของพรรคเพื่อไทย แม้จะเคยมีข้อโต้แย้งกันมาก่อน แต่พรรคก้าวไกลก็มีความสุกงอมอย่าง เต็มเปี่ยมที่จะขานรับจังหวะก้าวใหม่ของพรรคเพื่อไทย
เพราะเป้าหมายของพรรคก้าวไกล คือ ต้องการเห็นการแก้ไขมาตรา 272 ต้องการเห็นการ”ปิดสวิตช์ ส.ว.”มิใช่หรือ
แม้จะประสบกับอุปสรรคมากมายเข้ามาขวางกั้นมิให้ยุทธศาสตร์ การปิดสวิตช์ ส.ว.ก้าวไปด้วยความราบรื่น
ทั้งหมดนั้นล้วนเป็น”บทเรียน” เป็น”ประสบการณ์”
ประสบการณ์ทั้งการเรียนรู้ต่อพรรคการเมืองทั้งที่เป็นมิตร ทั้งที่เป็นคู่ต่อสู้ และทั้งที่เป็น”ครูด้านกลับ”ให้กับพรรคก้าวหน้าเอง
นี่คือประสบการณ์ ”ตรง” ท่ามกลางปฏิบัติการทางการเมือง